ร่วมบูชาวัตถุมงคล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

จุดไฟในใจคน แก้ปีชง

คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม


เจริญพรญาติโยมทุกท่าน ห้วงนี้ในแต่ละวันของอาตมา โยมส่วนใหญ่ที่มาหา มักตั้งคำถามยอดฮิตว่า “ปีนี้ปีชง จะทำอย่างไรดี มีวิธีแก้ไขหรือไม่” ซึ่งอาตมาก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ที่จะทำให้ญาติโยมถูกใจ ก็เลยส่งผงน้ำขิง ให้ไปคนละ 1 ซอง ให้ไปชงดื่ม เพื่อจะได้ผายลม ระบายสิ่งชั่วร้าย ที่ไม่ดีออกไปจากร่างกาย !?!

“พอเมื่อโยมรับซองผงน้ำขิงไปแล้ว ต่างคนต่างทำสีหน้างงๆ บ่งบอกถึงความไม่กระจ่างในทางความคิด”
เนื่องเพราะในความหมายของอาตมา ที่ส่งผงน้ำขิง ไปให้นั้น ใช่ว่าจะไม่มีนัยยะอะไร?เคลือบแฝง ในการให้แง่คิด ลึกๆอาตมาต้องการที่จะสื่อให้รู้ว่า ในชีวิตของคนเรานั้น ต้องอย่าไปยึดติด กับกายสังขาร ญาณบารมี ที่เราเอง ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตข้างหน้าจะลงเอยเฉกเช่นไร….

หัวใจสำคัญของการ “แก้ปีชง” ซึ่งก็ยังไม่รู้ความจริงที่ถ่องแท้ว่ามันชงอะไร?? แล้วทำไมต้องชงกันด้วยฤา

พื้นฐาน ณ จุดนี้ ญาติโยมส่วนใหญ่ ยังคิดแก้ด้วยตนเองไม่ได้ ยังไม่สามารถหาวิธีการสร้างขวัญกำลังใจให้กับตนเอง รู้เพียงว่าปีชงไม่ดี เขาว่าไม่ดี ก็ว่าตามเขา คิดตามกัน โดยยังไม่รู้ธาตุแท้ ว่าปีชง มีแก่นแกนอยู่ตรงไหน....

ซึ่งประเด็นนี้อาตมาจะไม่ขอกล่าวล่วงถึง เนื่องเพราะเป็นศาสตร์ทฤษฎีความเชื่ออีกแขนงหนึ่ง ที่มีมาแต่โบราณ

ซึ่งความจริง ในทางพุทธศาสนา เมื่อรู้ว่าปีชงมันไม่ดี!! มันทำให้จิตมีปัญหา!! ก็ควรสร้างเสริม “ใจ” ด้วยการสร้างสรรค์ จรรโลง “คิดบวก” ประพฤติปฏิบัติในทางบวก โดยไม่ทำให้ตนเองและคนในครอบครัวต้องเดือดร้อน หรือคนใกล้ชิดต้องขุ่นข้องหมองใจ หรือไม่สบายอารมณ์โดยไม่จำเป็น

ปรับระบบสมอง ฉุกคิดปรับปรุงชีวิต มิใช่ไปนั่งทดท้อ รอให้ความเจ็บป่วยทั้งทางกายและทางใจมาเยือน หรือไปนั่งกลุ้มเศร้า รันทดใจ ฟูมฟายแบบไร้สติ

บางรายถึงขนาดโหยหา ไขว่คว้าลมๆแล้งๆ โดยไม่ยอมทำมาหากิน กลัวแบบคนปอดแหก ใจไม่สู้ แล้วสุดท้าย อยู่ก็ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆแบบรอวันตาย

มีโยมบางรายดิ้นรน จนทำให้ต้อง “ชง” มากยิ่งกว่าเดิม

บางครั้งการอยู่เฉยๆ ใช้สติแบบกว้างๆ ย่อมมีเวลาอธิบายความรู้สึกของตนในทางบวกได้มากกว่า ทางลบ

ในโลกของความจริง อาตมาไม่เคยปฏิเสธเรื่อง เครื่องรางของขลัง หรือความเชื่อแบบโบราณจารย์ เพราะทั้ง 2 สิ่งนี้ มีอยู่คู่กับคนไทย คนพุทธมาช้านาน

มันเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้เฉพาะตน มิใช่เรื่องงมงายไร้สาระอย่างที่หลายคนประณาม เฉกเช่น การที่อาตมาสร้างเหรียญเทพยดาประจำวันเกิด ขึ้นมานั้น เนื่องเพราะทุกคนต่างมีเทพเทวดาคุ้มครอง ตั้งแต่แรกเกิด จวบจนวันตาย เหมือนดังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ก็มีเทพยดาคุ้มครองเช่นเดียวกัน!!!

ฉะนั้นถึงจะเป็นปีชงอย่างไร น่าเครียดขนาดไหน ไม่สำคัญเท่ากับถ้าเราบูชาอาราธนาแขวนเหรียญเทพยดาประจำวันเกิดไว้ติดกายตลอดเวลา อุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง “ย่อมสู้เทวดาคุ้มภัย ไม่ได้อย่างแน่นอน” ยิ่งถ้าใครก็ตามที่ชอบคิดว่าตัวเอง มีเคราะห์ ดวงตก ปีชง ซวย มีความทุกข์ มีความกังวลใจ ควรบูชาเหรียญเทพยดาประจำวันเกิด เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ท่านสอนไว้เสมอว่า “วัตถุมงคลต่างๆสร้างขึ้นไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ มิใช่สร้างให้หลงงมงาย อิทธิปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากจิตศรัทธาของท่าน”

ยิ่งโดยเฉพาะในสังคมปัจจุบันที่วุ่นวาย สับสน อลหม่าน ย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำเนิดขึ้นจริง และยิ่งถ้าเราศรัทธาอย่างถูกต้อง มีเหตุมีผล ศรัทธาตามวิถีปฏิบัติ “คิดดี ทำดี” มีวินัยในการดำเนินลมหายใจ อย่างมีสติ คิดรอบคอบ ไม่ประมาท มีการเตรียมความพร้อม และใช้ร่างกายอย่างสมฐานะ นั่นย่อมส่งสัญญาณว่า ทุกข์เกิดขึ้นน้อยแน่นอน

หรือเฉกเช่นอีกวิธีการหนึ่งที่ดีงาม คือการเข้าร่วมพิธีลงนะหน้าทอง จันทร์มหาเสน่ห์ ตำรับหลวงพ่อพูล ที่วัดไผ่ล้อม พิธีกรรมดังกล่าวนี้ อาตมาจัดให้มีขึ้นในทุกวันจันทร์ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อัตตะรักโข อมตะเถราจารย์ ได้นิมิตบัญชาให้สงเคราะห์ญาติโยม ที่ทุกข์ร้อน มาลงนะหน้าทอง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตสืบต่อไป

อาตมาเชื่อว่า “พิธีลงนะหน้าทอง” นี่ก็สามารถแก้ปีชง ที่ญาติโยมหวาดวิตกได้เช่นเดียวกัน ถ้าเลือกสิ่งนี้ ด้วยสติ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ โบราณสร้างกุศโลบายไว้ได้ดีอย่างแยบยล

ต้องขอบคุณในความเป็นน้ำดี ของพิธีกรรมโบราณ ที่มีพลังแรงกระตุ้น ให้ญาติโยมเกิดความมั่นใจ และจะไม่ต้องกลัวปีชงอีกต่อไป ด้วยหัวใจที่กล้าแกร่ง โดยไม่ประมาทในการเดินบนถนนของคน ที่ย่อมต้องสัมผัส กิเลส ตัณหา ราคะ ความโลภ ความโกธร ความหลง หรือแม้กระทั่ง ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย

ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ทำผิดกฎหมาย ดูแลรักษาสุขภาพ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่เสพยาเสพติด มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้ที่มีพระคุณต่อเรา

“ความกตัญญูกตเวที” คือเครื่องหมายของคนดี ที่ประกอบด้วย ความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และรู้บุญคุณคน ถ้าประพฤติปฏิบัติได้เยี่ยงนี้ ต่อให้เป็นปีชงที่โหดร้ายขนาดไหน ร้ายย่อมกลับกลายเป็นดี กตัญญูสามารถแก้เคล็ด สามารถส่งเสริมให้เกิดราศี ถ้าทุกคนมีความกตัญญูกตเวทีติดกายย่อมมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ไร้โรคภัยไข้เจ็บ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บไม่จน กินอิ่ม นอนอุ่น เฮง เฮง เฮง รวย รวย รวย ทั่วกันทุกท่านทุกคนอย่างแน่นอน!!! ขอเจริญพร

พิธีขอขมากรรม ส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม