ร่วมบูชาวัตถุมงคล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หนูอยากจะทำแท้ง ทำอย่างไรดี !?!
‘ถ้าพ่อแม่เราทำแท้ง จะมีเราวันนี้มั้ย’
คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

เจริญพรญาติโยมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สัปดาห์นี้อาตมาได้รับโทรศัพท์จากโยมสีกาท่านหนึ่ง เธอร้องห่มร้องไห้ปริ่มแทบจะขาดใจ บอก “หนูอยากจะไปทำแท้ง”

คำคิดนี้แสลงใจอาตมามาก มันสะท้อนความต่ำทรามของสังคมไทย ที่ใครๆก็เมินหน้าหนี แล้วปัญหานี้ ใครล่ะจะช่วยเด็กสาวคนนี้ ให้หลุดพ้นจากนรกอเวจีนี้ได้...ถ้ามิใช่แสงสว่างทางคำแนะ จากพระสงฆ์ เฉกเช่นอาตมา!!!

และที่สำคัญ อาตมาเคยตอบปัญหาเรื่องทำแท้ง ในการไปธรรมะเชิงรุกตามสถาบันการศึกษาต่างๆ แล้วก็พูดเรื่องนี้ในรายการโทรทัศน์ไปแล้วหลายครั้งหลายครา

แต่สำหรับกรณีที่โยมกำลังจะตัดสินใจไปทำแท้ง รายนี้ ถือเป็นรายแรกของอาตมา ที่จะได้ปุจฉา ให้กระจ่างถ่องแท้ ในการแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ตามทำนองครองธรรม
ฉะนั้นอาตมา จึงตัดสินใจนำเรื่องนี้ มาลงตีพิมพ์ก่อนเป็นวาระเร่งด่วน เนื่องจากการตัดสินใจจะไปทำแท้ง ถ้าได้รับคำสอนชี้แนะที่ดีมีเหตุผล ย่อมเกิดประโยชน์มหาศาลต่อหลายๆชีวิตที่คิดจะไปทำแท้ง

ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้มีความสำคัญมาก และเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของอาตมา ที่สามารถช่วยไม่ให้คนคิดผิด.....ทำพลาด.....เพราะเพียงเสี้ยววินาที ถ้าได้รับคำปรึกษาที่ดี รับรองว่าโยมไม่ไปทำแท้งอย่างแน่นอน!!!

จากนั้นอาตมาได้จุดไฟในใจโยม ให้แสงสว่างอย่างชัดเจนไปว่า.... “ถ้าโยมคิดจะไปทำแท้งจริงๆ โยมควรคิดให้ดีเสียก่อนจะตัดสินใจ ให้คิดกลับไปว่า ที่โยมมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะใคร ถ้าไม่ใช่แม่ของเรา ที่ทำให้เราได้เกิดขึ้นมาเป็นผู้เป็นคนในวันนี้”

และถ้าวันนั้น แม่ตัดสินใจไปทำแท้ง แล้วจะมีเราเกิดขึ้นมาได้หรือไม่ในวันนี้!?! ชีวิตเลือดเนื้อที่หายไป บาปบุญคุณโทษ ที่ตรึงในหัวใจ ให้ต้องเจ็บปวดตลอดชีวิต

อาตมาให้หลักคิดของการดำเนินชีวิต โยมต้องถามตนเองก่อน สาเหตุอะไร ทำไมต้องคิดจะไปทำแท้ง แต่อาตมาจะสรุปสาเหตุพื้นฐานของการคิดจะไปทำแท้ง เด่นๆเลยเริ่มจาก.....

ประเด็นแรก เกิดจาก “ผู้ชายทิ้ง” แล้วไปมีกิ๊กใหม่ ในความจริงแรกๆก็หอมหวาน พอได้แล้ว อารมณ์เปลี่ยน สมอยากตามที่ใจต้องการ สันดานเก่าสำแดงเดช ธาตุแท้ของความเห็นตัว ต้องการเพียงสนองตัณหาราคะ เพียงครู่ยาม นี่คืออีกหนึ่งจุดเปลี่ยน ที่ผู้ชายหลายๆคน ทิ้งแฟนสาว ตัดสินใจหนีไปหาคนใหม่ เป็นการหนีปัญหา ทิ้งภาระให้อีกฝ่ายต้องรับเวรกรรม

ประเด็นที่ 2 เกิดจากการที่ “ผู้ชายไม่ดูแล” ไม่สนใจใยดี วิถีของผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่ชอบที่จะรับผิดชอบใคร อ้างความไม่พร้อม แต่เวลาจะมีเพศสัมพันธ์ก็โหยหา ตบปากรับคำสารพัด แต่พอเอาเข้าจริง ทำไม่ได้สักอย่าง ตามที่คุยไว้ กมลสันดานฝังแน่นไว้ด้วยพฤติกรรม กะล่อน ปลิ้นปล้อน หลอกลวง คือเอกลักษณ์ของผู้ชายเลว

ประเด็นสุดท้าย เกิดจากพอรู้ว่า “ฝ่ายหญิงตั้งท้องแล้ว” เรื่องต่างๆก็จะตามมา การพูดคุยเริ่มยากขึ้น ไม่เหมือนตอนอ้อนขอมีเพศสัมพันธ์ อาการเปลี่ยน สีหน้า อารมณ์หงุดหงิด คำพูดคำจา เริ่มหยาบคาย โกธรง่ายขึ้นเสียงดัง ยืนยันไม่ต้องการลูก ไม่อยากมีภาระ ชักแม่น้ำทั้ง 5 มาสาธยายให้ไปทำแท้ง

ทั้ง 3 ประเด็นนี้ คือสาเหตุของการที่ผู้หญิงต้องไปทำแท้ง ในฐานะที่อาตมาเป็นผู้ชาย ค่อนข้างเข้าใจนิสัยผู้ชายด้วยกันดี โยมต้องแยกผู้ชายไว้ 2 ประเภท ระหว่างผู้ชายดี กับ ผู้ชายเลว

ผู้ชายดี กล่าวคือ ถ้าเขามีอะไรกับแฟนสาวแล้ว เขาจะมีสปิริต แสดงตัวแสดงตนในความเป็นพ่อของเด็กอย่างชัดเจน เนื่องเพราะเลือดเนื้อหัวใจของความสำนึกในความเป็นพ่อคน มันผุดขึ้นโดยอัตโนมัติ และสำนึกคุณธรรม ที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก พอถึงจุดนี้ ความรับผิดชอบในหน้าที่พ่อ หน้าที่สามี มันล้ำหน้ามาก่อนเลย!!!

ส่วนผู้ชายที่ไม่ดี ก็คือ เลว พวกนี้จะอาการแรกคือเสียงใจแข็งใจดำทันที “กูยืนยันไม่รับผิดชอบลูกเดียว” ไม่สนแม้เทวดาฟ้าดินจะมาขอร้อง หรือจะพาใครที่ใหญ่ขนาดไหนในชีวิตมาอ้อนวอนให้ตาย มันก็ไม่สน เพราะคนมันไม่แคร์ ไม่สำเหนียก และเมื่อผู้หญิงพอเจอผู้ชายประเภทนี้ ยิ่งรีบตัดสินใจไปทำแท้ง เพราะความแค้นเป็นชนวนไฟสุม ให้ใจมืดบอด ทำเพราะประชดประชัด เครียดเกลียดชิงชังในความเลือดเย็นของผู้ชายที่ตนรัก นี่ขนาดยอมพลีกาย แต่ไม่เคยคิดเลยว่า มันคือนรกทั้งเป็น!!!

การที่ผู้หญิงตัดสินใจจะไปทำแท้ง อีกประการหนึ่ง เกิดจากความกลัว กลัวพ่อแม่รู้ และไม่กล้าปรึกษาใคร

เรื่องกลัวพ่อแม่รู้ ลูกผู้หญิงส่วนใหญ่ เมื่อรู้ว่าตนตั้งท้อง แล้วปรากฏว่าฝ่ายชายไม่ยอมรับ สิ่งที่ตามมาก็คือความหวาดกลัว ด้วยห้วงของวัยที่ยังเด็ก กำลังยังเรียนหนังสืออยู่ ที่สำคัญยังรับผิดชอบตนเองไม่ได้ สิ่งที่กลัวมากที่สุดก็คือ “กลัวพ่อแม่รู้ แล้วรับไม่ได้” เพราะต้องเสียหน้า ประทุอารมณ์ด่าทอ แล้วต่อยอดไปถึงความอายเพื่อนบ้าน ความกลัวดังกล่าวนี้ เป็นแรงผลักที่มีอิทธิพลสูงมากเช่นกัน!!!

ส่วนปัญหาอีกข้อที่ตามมาติดๆ เป็นชนวนสำคัญ ที่ทำให้ตัดสินใจจะไปทำแท้ง ก็คือ อาการอาย ไม่กล้าปรึกษาใคร ทำใจไม่ได้ที่จะเล่าความจริงให้คนอื่นรู้ กลัวถูกประณามหยามหมิ่น กลัวโดนดูถูกเหยียดหยาม ก็เลยพาลไม่กล้าไปขอคำคิดเห็นชี้แนะจากใครทั้งสิ้น มันมืดมนแปดด้าน

เรื่องราวทั้งหมดที่อาตมาชักแม่น้ำทั้ง 5 มาประกอบมุมคิด ณ ห้วงเวลานี้ มันเป็นสิ่งที่แก้ไขได้ สำคัญที่คนสอน และคนฟัง สามารถจูนเข้าหากันได้หรือไม่

ฉะนั้นการเตือนสติที่กระตุ้นไปที่พ่อแม่ ถ้าวันนั้นแม่ตัดสินใจไปทำแท้ง ไม่มีเราแน่นอนในวันนี้ วันดีๆยังรออยู่ข้างหน้า อนาคตที่สดใสทั้งพ่อแม่ลูก ยังหอมหวานอบอวล ทุกปัญหาแก้ไขได้ ด้วยสติ หนูจงจำไว้ “โลกมีไว้เหยียบ ไม่ได้มีไว้แบก”

และถ้าถามอาตมาว่าทำแท้งบาปมั้ย Before(บีฟอร์) ถ้าก่อนทำ แล้วจะตัดสินใจไปทำ “บาปแน่นอน” นรกทั้งเป็น!!!

แต่ถ้าถามอาตมาว่าหนูไปทำแท้งมาแล้ว After(อาฟเตอร์) บาปมั้ย อาตมาตอบ ว่า “ไม่บาป” เพราะอะไร?? ก็ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ โยมจะทุกข์ทำไม ก็มันทำไปแล้ว และจะมาคิดมากให้เปลืองสมองทำไม ในเมื่อชีวิตต้องดำเนินต่อไป อย่าทำให้มันมีตราบาป ในหัวใจ ทำเศร้าทำทุกข์เพื่ออะไร? ไม่มีประโยชน์ บั่นทอนสุขภาพจิตเปล่าๆ....

เราต้องฝึกสร้างทุนให้ชีวิต ด้วยจิตที่ไม่ขุ่นมัว ควรลงมือตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง จงรู้จักที่จะมีปัจจุบันขณะที่รู้เท่าทัน อย่ามืดบอด อย่ากังวลว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร อย่ากลัว อย่าลังเลที่จะทำความดี “เมื่อคิดที่จะมีลูก”



ฉบับหน้าอย่ากระพริบตา อาตมาจะเขียนเรื่องเมื่อไปทำแท้งแล้ว ทำไมถึงไม่บาป อย่าพลาดโดยเด็ดขาด และสาเหตุที่ไม่บาปนั้น คืออะไร อาตมาจะแจกแจงถึงเหตุและผลให้ทราบโดยทั่วกัน ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด สำหรับสัปดาห์นี้...ขอเจริญพร

พิธีขอขมากรรม ส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม