จุดไฟในใจคน ไซด์ไลน์ขายตัว
"ช่วยผัวติดการพนัน"
 |
| คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม |
ล่าสุดมีโยมผู้หญิงท่านหนึ่ง ซึ่งก็เป็นแฟนประจำคอลัมน์จุดไฟในใจคน เธอบอกว่าอ่านมติชนสัปดาห์เป็นประจำ เช่นกัน
พลันที่สายตาเธอ เห็นเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ใต้หัวคอลัมน์นี้ ก็เลยโทรศัพท์ เข้ามาเล่าระบายปรึกษาหาทางออก เกี่ยวกับเรื่องราวในห้วงชีวิต ที่เธอบอกว่าทุกข์สุดๆจริงๆ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร มืดแปดด้านไปหมด
เธอนึกถึงอาตมา ก็เลยตัดสินใจ โทรศัพท์เข้ามาถาม พร้อมเล่าเรื่องราวดังต่อไปนี้
หัวใจสำคัญเธอเกริ่นนำเป็นไตเติ้ลไว้ว่า.... เธอมีโอกาสได้รับการช่วยเหลือ จากคุณพี่ผู้ชายท่านหนึ่ง ซึ่งมีเหตุให้ได้เจอกันในสังคมอลเวงบนโลกใบนี้
โดยผู้ที่ช่วยทำให้เธอรอดพ้น จากบ่วงกรรมแห่งความทุกข์ครั้งนี้ มีความพิเศษ จนทำให้เธอไม่สามารถเก็บไว้เป็นความลับได้ จึงนำมาถามอาตมาหลวงพี่น้ำฝน เพื่อคลายปมทุกข์ในใจ!!!
เธอเท้าความเล่าให้ฟังอีกว่า.... เธอเป็นเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านเมื่อเร็วๆนี้ เธอได้เสนอขายตัว ในรูปแบบของงานไซด์ไลน์ โดยมีนายหน้า นำพาเธอไปหาคุณพี่ผู้ชายท่านหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวัยกลางคน อายุไม่น่าเกิน 40 ปี รูปร่างดี ผิวขาว หุ่นสูง ผอมเพรียว ไม่มีพุง
นายหน้านำเธอมาที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง เพื่อนำเสนอฝากเนื้อฝากตัว ให้ช่วยสงเคราะห์พลีกายแลกเงิน โดยเมื่อนัดเจอกันเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว
ชายใจบุญที่เป็นพ่อพระท่านนี้ ใคร่อยากรู้ประวัติความเป็นมาของเธอ..... ว่าไฉนเลยถึงได้มาขายตัวเยี่ยงนี้
ชายท่านนั้นได้เอ่ยปากสัมภาษณ์.... ถามถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาขายตัวในครั้งนี้ ว่ามีเหตุผลกลใด!!!
เธอจึงเล่าความจริงให้ฟังไปว่า....สามีของเธอนั้น ได้ไปเล่นการพนันฟุตบอล เล่นเสียเงินเป็นประจำ แถมยังติดการพนันฟุตบอลจนติดงอมแงม “เป็นหนี้เจ้าหนี้” มีหนี้สินพอกพูนอีรุงตุงนังมากมาย
เมื่อมีการทวงหนี้เกิดขึ้น เธอจึงได้ไปเซ็นสัญญากับเขาไว้ว่าจะขายตัวใช้หนี้ ด้วยเหตุผลนี้ จึงไม่สามารถปฏิเสธเรื่องดังกล่าวนี้ได้!!!
สุดท้ายเธอในฐานะเมีย คู่ชีวิต เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ก็เลยเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เธอเล่าในฐานะเมีย เธอบอกว่าเมียทุกคนนั้น ล้วนรักผัวของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว....
และการที่มานำเสนอขายตัวในครั้งนี้ ก็เพื่อจะเอาเงินไปเคลียร์ใช้หนี้ช่วยสามีให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมแห่งทุกข์นั่นเอง!!!
สำหรับพ่อพระผู้ใจบุญท่านนี้ จึงเกิดความสงสาร ช่วยเหลือเรื่องการเงิน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรด้วย แต่ขอให้ไปสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่วัด ว่าเรื่องทั้งหมดที่เล่ามานั้นเป็นความจริง และยืนยันว่าจะไม่ทำเรื่องในลักษณะเฉกเช่นนี้อีก
จากนั้นเมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านไป เธอก็เลยโทรศัพท์เข้ามาถามอาตมา... มีความอยากรู้ว่า สิ่งที่เธอได้ตัดสินใจทำลงไปแล้วนั้น “มันผิดหรือไม่” และควรจะทำอย่างไรต่อไปในชีวิตอนาคต
อาตมาจึงตอบไปว่า.... ถ้าถามว่าผิดไหม เริ่มต้นจากที่สามีไปเล่นการพนันนั้น มันก็ผิดแน่นอน เพราะการพนัน เป็นบ่อเกิดของทุกข์ทั้งปวง จุดประกายรูปธรรมอาชญากรรมมากมายในสังคมโลกนี้
ส่วนการที่คิดหรือเริ่มกระทำที่จะไปผิดลูกเมียผู้อื่นนั้น มันก็ผิดศีล 5ในข้อหากาเมฯอยู่แล้ว
แต่ถามว่าจะไปคิดมากอีกทำไม ในเมื่อเหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว ควรหันมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ล้างประเด็นความผิดพลาด ใช้เรื่องนี้เป็นครู ทบทวนเป็นวิชาการในการดำเนินชีวิต
อาตมาอยากจะชี้ให้เห็น ถึงการที่มีคำกล่าวไว้ว่า “ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม” คำกล่าวนี้ มีความหมายว่าอย่างไร โดยปกติแล้ว คนเราเมื่อมีความสุข ก็หลงอยู่ในความสุขที่ตนมีอยู่ มีความประมาทว่า สถานภาพเช่นนี้ คงจะดำรงอยู่ไปเรื่อยๆ ไม่เสื่อมทราม จึงไม่สนใจที่จะศึกษาธรรมะ เพราะไม่เข้าใจว่าธรรมะคืออะไร???
“ความไม่เข้าใจดังกล่าว ประกอบกับมีความเห็นผิด เวลามีความสุข จึงดูหมิ่นดูแคลนธรรมะ หรือดูหมิ่นดูแคลนพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ ตลอดจนผู้ปฏิบัติธรรม”
ครั้นเมื่อตนมีทุกข์ เป็นต้นว่า ต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก มีหนี้สินมากมาย เป็นต้น ก็หาทางดับทุกข์ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น เข้าหาอบายมุข เล่นการพนัน จนเสียผู้เสียคน นี่คือชนวนที่มาของเรื่องนี้
ฉะนั้นจึงควรต้องแก้ด้วยการฝึกใจ ยอมรับความเป็นจริงของชีวิต “ปล่อยวาง” ไม่ยึดมั่น ยกระดับใจ เกรงกลัวต่อบาป ละอายต่อบาป ขจัดอารมณ์ร้ายให้เบาบางลง อดทนอดกลั้นให้มากยิ่งขึ้น “ลดความเห็นแก่ตัว” ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นมากขึ้น ...ชนวนนี้อาตมาให้แสงสว่าง เพื่อให้โยมเห็นทางเดิน นำไปสู่สันติสุขของชีวิต
และสิ่งที่อาตมาได้สอนเธอไปอีกประเด็นหนึ่งก็คือ ให้ยึดถือปฏิบัติแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ชายใจบุญพ่อพระท่านนี้... ด้วยการเป็นคนดี คิดดี ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และรู้บุญคุณคน
อุทาหรณ์เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า การสำนึกผิด การได้เจอคนดีนั้น ถือเป็นบุญกุศลมหาศาลในชีวิตของเราทุกคน
ควรเลิกคิดได้แล้ว ว่าทำไม ฉันต้องไปขายตัว ช่วยผัวติดการพนัน อาตมาขอสอนให้จำไว้เลย เพราะความคิดเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ การไม่คิดย่อมนำมาสู่การไร้ทุกข์
ความคิดไปตามตัณหาต่างๆ ฟุ้งซ่าน ขี้กลัว เป็นความคิดกิเลสตัณหา ที่เกิดในใจ เป็นอุปาทาน เป็นอุจจาระทางจิตใจ แล้วเราควรทำอย่างไร ก็อย่ายินดียินร้าย คิดดีคิดถูก ตั้งเจตนาถูกต้อง ทำใจให้เป็นศีล แล้วก็ปล่อยวางในความรู้สึกที่ไม่สบายใจ ไม่สร้างมโนกรรม(การกระทำทางใจ) กายกรรม(การกระทำทางกาย) วจีกรรม(การกระทำทางวาจา) จากนั้นก็ทำใจให้สงบ โดยการรักษามโนกรรม คิดดี พูดดี ทำดี แล้วจากนั้นทุกข์ก็จะค่อยๆคลายไป ฉะนั้นเราควรนำบทเรียนดังกล่าวนี้ มาเป็นครูสอนใจ สร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตให้กับตนเองสืบต่อไป....ขอเจริญพร
โดยผู้ที่ช่วยทำให้เธอรอดพ้น จากบ่วงกรรมแห่งความทุกข์ครั้งนี้ มีความพิเศษ จนทำให้เธอไม่สามารถเก็บไว้เป็นความลับได้ จึงนำมาถามอาตมาหลวงพี่น้ำฝน เพื่อคลายปมทุกข์ในใจ!!!
เธอเท้าความเล่าให้ฟังอีกว่า.... เธอเป็นเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านเมื่อเร็วๆนี้ เธอได้เสนอขายตัว ในรูปแบบของงานไซด์ไลน์ โดยมีนายหน้า นำพาเธอไปหาคุณพี่ผู้ชายท่านหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวัยกลางคน อายุไม่น่าเกิน 40 ปี รูปร่างดี ผิวขาว หุ่นสูง ผอมเพรียว ไม่มีพุง
นายหน้านำเธอมาที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง เพื่อนำเสนอฝากเนื้อฝากตัว ให้ช่วยสงเคราะห์พลีกายแลกเงิน โดยเมื่อนัดเจอกันเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว
ชายใจบุญที่เป็นพ่อพระท่านนี้ ใคร่อยากรู้ประวัติความเป็นมาของเธอ..... ว่าไฉนเลยถึงได้มาขายตัวเยี่ยงนี้
ชายท่านนั้นได้เอ่ยปากสัมภาษณ์.... ถามถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาขายตัวในครั้งนี้ ว่ามีเหตุผลกลใด!!!
เธอจึงเล่าความจริงให้ฟังไปว่า....สามีของเธอนั้น ได้ไปเล่นการพนันฟุตบอล เล่นเสียเงินเป็นประจำ แถมยังติดการพนันฟุตบอลจนติดงอมแงม “เป็นหนี้เจ้าหนี้” มีหนี้สินพอกพูนอีรุงตุงนังมากมาย
เมื่อมีการทวงหนี้เกิดขึ้น เธอจึงได้ไปเซ็นสัญญากับเขาไว้ว่าจะขายตัวใช้หนี้ ด้วยเหตุผลนี้ จึงไม่สามารถปฏิเสธเรื่องดังกล่าวนี้ได้!!!
สุดท้ายเธอในฐานะเมีย คู่ชีวิต เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ก็เลยเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เธอเล่าในฐานะเมีย เธอบอกว่าเมียทุกคนนั้น ล้วนรักผัวของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว....
และการที่มานำเสนอขายตัวในครั้งนี้ ก็เพื่อจะเอาเงินไปเคลียร์ใช้หนี้ช่วยสามีให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมแห่งทุกข์นั่นเอง!!!
สำหรับพ่อพระผู้ใจบุญท่านนี้ จึงเกิดความสงสาร ช่วยเหลือเรื่องการเงิน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรด้วย แต่ขอให้ไปสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่วัด ว่าเรื่องทั้งหมดที่เล่ามานั้นเป็นความจริง และยืนยันว่าจะไม่ทำเรื่องในลักษณะเฉกเช่นนี้อีก
จากนั้นเมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านไป เธอก็เลยโทรศัพท์เข้ามาถามอาตมา... มีความอยากรู้ว่า สิ่งที่เธอได้ตัดสินใจทำลงไปแล้วนั้น “มันผิดหรือไม่” และควรจะทำอย่างไรต่อไปในชีวิตอนาคต
อาตมาจึงตอบไปว่า.... ถ้าถามว่าผิดไหม เริ่มต้นจากที่สามีไปเล่นการพนันนั้น มันก็ผิดแน่นอน เพราะการพนัน เป็นบ่อเกิดของทุกข์ทั้งปวง จุดประกายรูปธรรมอาชญากรรมมากมายในสังคมโลกนี้
ส่วนการที่คิดหรือเริ่มกระทำที่จะไปผิดลูกเมียผู้อื่นนั้น มันก็ผิดศีล 5ในข้อหากาเมฯอยู่แล้ว
แต่ถามว่าจะไปคิดมากอีกทำไม ในเมื่อเหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว ควรหันมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ล้างประเด็นความผิดพลาด ใช้เรื่องนี้เป็นครู ทบทวนเป็นวิชาการในการดำเนินชีวิต
อาตมาอยากจะชี้ให้เห็น ถึงการที่มีคำกล่าวไว้ว่า “ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม” คำกล่าวนี้ มีความหมายว่าอย่างไร โดยปกติแล้ว คนเราเมื่อมีความสุข ก็หลงอยู่ในความสุขที่ตนมีอยู่ มีความประมาทว่า สถานภาพเช่นนี้ คงจะดำรงอยู่ไปเรื่อยๆ ไม่เสื่อมทราม จึงไม่สนใจที่จะศึกษาธรรมะ เพราะไม่เข้าใจว่าธรรมะคืออะไร???
“ความไม่เข้าใจดังกล่าว ประกอบกับมีความเห็นผิด เวลามีความสุข จึงดูหมิ่นดูแคลนธรรมะ หรือดูหมิ่นดูแคลนพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ ตลอดจนผู้ปฏิบัติธรรม”
ครั้นเมื่อตนมีทุกข์ เป็นต้นว่า ต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก มีหนี้สินมากมาย เป็นต้น ก็หาทางดับทุกข์ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น เข้าหาอบายมุข เล่นการพนัน จนเสียผู้เสียคน นี่คือชนวนที่มาของเรื่องนี้
ฉะนั้นจึงควรต้องแก้ด้วยการฝึกใจ ยอมรับความเป็นจริงของชีวิต “ปล่อยวาง” ไม่ยึดมั่น ยกระดับใจ เกรงกลัวต่อบาป ละอายต่อบาป ขจัดอารมณ์ร้ายให้เบาบางลง อดทนอดกลั้นให้มากยิ่งขึ้น “ลดความเห็นแก่ตัว” ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นมากขึ้น ...ชนวนนี้อาตมาให้แสงสว่าง เพื่อให้โยมเห็นทางเดิน นำไปสู่สันติสุขของชีวิต
และสิ่งที่อาตมาได้สอนเธอไปอีกประเด็นหนึ่งก็คือ ให้ยึดถือปฏิบัติแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ชายใจบุญพ่อพระท่านนี้... ด้วยการเป็นคนดี คิดดี ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และรู้บุญคุณคน
อุทาหรณ์เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า การสำนึกผิด การได้เจอคนดีนั้น ถือเป็นบุญกุศลมหาศาลในชีวิตของเราทุกคน
ควรเลิกคิดได้แล้ว ว่าทำไม ฉันต้องไปขายตัว ช่วยผัวติดการพนัน อาตมาขอสอนให้จำไว้เลย เพราะความคิดเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ การไม่คิดย่อมนำมาสู่การไร้ทุกข์
ความคิดไปตามตัณหาต่างๆ ฟุ้งซ่าน ขี้กลัว เป็นความคิดกิเลสตัณหา ที่เกิดในใจ เป็นอุปาทาน เป็นอุจจาระทางจิตใจ แล้วเราควรทำอย่างไร ก็อย่ายินดียินร้าย คิดดีคิดถูก ตั้งเจตนาถูกต้อง ทำใจให้เป็นศีล แล้วก็ปล่อยวางในความรู้สึกที่ไม่สบายใจ ไม่สร้างมโนกรรม(การกระทำทางใจ) กายกรรม(การกระทำทางกาย) วจีกรรม(การกระทำทางวาจา) จากนั้นก็ทำใจให้สงบ โดยการรักษามโนกรรม คิดดี พูดดี ทำดี แล้วจากนั้นทุกข์ก็จะค่อยๆคลายไป ฉะนั้นเราควรนำบทเรียนดังกล่าวนี้ มาเป็นครูสอนใจ สร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตให้กับตนเองสืบต่อไป....ขอเจริญพร
เรื่องโดย : พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน)
เรียบเรียงโดย : บก.ไก่ วีรพล และทีมงานมงคลพระ
