ร่วมบูชาวัตถุมงคล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

โยมคู่เกย์ “ควีน คิง” ร้าวเล่ห์  หลอกลวง
“อาตมาแนะวิธีล้างพิษรัก ด้วยการดีท็อกซ์ใจ”

คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม


เจริญพรญาติโยมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ล่าสุดมีโทรศัพท์เข้ามาหาอาตมา ที่เบอร์ 087-7111333…. สดับตรับฟัง“เป็นเสียงผู้ชาย สำเนียงหญิง”

เธอยิงคำถาม “สะดวกมั้ยค่ะหลวงพี่ พร้อมที่จะรับฟังเรื่องของหนูมั้ยค่ะ” อาตมาจึงตอบไปว่า “สะดวกโยม มีอะไรเล่ามาได้เลย.....”

“หลวงพี่ขา หนูเป็นเกย์ควีนค่ะ ปัจจุบันมาทำงานอยู่ที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี” เมืองที่มีคำขวัญ ประจำจังหวัดคือ “เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ”

“ต่อเลยนะค่ะหลวงพี่...แฟนของหนู ทำงานอยู่ที่จังหวัดราชบุรีค่ะ” เมืองที่มีคำขวัญว่า “คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ตื่นใจ ถ้ำงาม ตลาดน้ำดำเนิน เพลินค้างคาวร้อยล้าน ย่านยี่สกปลาดี”

แฟนหนูมีสถานภาพเป็นเกย์คิงค่ะ

จากนั้นเธอเล่าให้ฟังอีกว่า...สมัยก่อนอยู่ด้วยกันฉันคิง-ควีน ที่วิมานรักเมืองโอ่งจังหวัดราชบุรี ก่อนหน้านี้ก็รักกันดี มีวินัย มีความสุขตามประสาคู่เกย์ ทั่วไป

ใช้ชีวิตอยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย มีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้าง ประสาลิ้นกับฟัน แต่ก็จบลงด้วยความหวานชื่นทุกครั้ง

ส่วนใหญ่จะเน้นออมชอม และครองสุขด้วยรัก เนื่องเพราะยังข้าวใหม่ปลามัน มองโลกสีชมพูทั้งใบ

ต่อมาไม่นานอุบัติเหตุรัก ก็ประจักษ์เกิดขึ้น เมื่อหนูต้องมีเหตุอันจำเป็น ขยับย้ายไปทำงานที่สุราษฏร์ธานี ช่วงนั้นก่อนไปก็มีปากเสียงกันเล็กน้อย เพราะความไม่อยากจากกัน แต่เมื่อตกลงกันได้ ก็ต้องทำใจ.....ว่าคงหนีไม่พ้นวิถีแห่งการพลัดพราก และต้องน้อมรับความห่างเหินที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ห้วงที่ย้ายไปใหม่ๆ มีการโทร.หาพูดคุย ปรับสารทุกข์สุขดิบตลอดเวลา ระหว่างนั้นยอมรับ “รักยังบานฉ่ำหวานชื่น” ถึงแม้ตัวจะอยู่ไกล แต่ใจเสมือนอยู่ใกล้กันเสมอ

และแล้วเมื่อวันเวลาผ่านไป หนุ่มเกย์คิงจากราชบุรี เริ่มออกอาการ กระตุกรัก คุยน้อยลง ถามคำตอบคำ และเมื่อหนูย้ำถามว่า“ยังรักอยู่มั้ย” เขาก็ตอบว่า “ยังรักอยู่เหมือนเดิมจ๊ะที่รัก รับประกันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

แต่หนูก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดฟันธง ว่าเขาจะนอกใจเราเสียแล้ว เพราะนั่นเป็นเพียงการสร้างภาพจินตนากาลไปเองทั้งสิ้น!!!

จวบจนหลังๆมานี้ ภาพแห่งการเปลี่ยนแปลงเริ่มทวีคูณชัดเจนขึ้นทุกขณะ เมื่อโทร.ไปหา เขาอ้างเพียงประโยคเดียวสั้นๆ “งานยุ่ง ไม่ว่างจริงๆ แค่นี้นะ” แล้วเขาก็วางสายไป แบบไม่ใยดี

บ่อยครั้งที่หนูโทร.ไป ยอมรับว่าทำใจไม่ได้ ถึงกับน้ำตาร่วง มันเจ็บลึกๆข้างในหัวใจ เป็นลางสังหรณ์ให้รู้ว่า เขาจากไปแน่แล้ว

-“หลวงพี่ขานี่แสดงว่า เขาไม่รักหนูแล้วใช่มั้ยค่ะ”

-อาตมาจึงตอบไปว่า...ใจเย็นๆโยม ตั้งสติให้ดีก่อนนะ พยายามทำใจให้ชินกับสิ่งที่เราเข้าใจว่ามันคือความทุกข์

ฟังอาตมาให้ดีๆนะโยม เรื่องของความรัก เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องทำความเข้าใจในเนื้อหาของความรักให้ถ่องแท้ ใช้สติสมาธิในการพิจารณา ที่มาที่ไป ต้นสายปลายเหตุ ให้นึกถึงวันแรกที่พบกัน ความรู้สึกดีๆ ความปรารถนาดี ความเมตตา ให้อภัย ความมีคุณธรรมในรักแท้ ถ้าจำเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ได้ ความสุขใจก็บังเกิด

ที่สำคัญ ณ ห้วงเวลานี้ ไม่ต้องไปตอบโต้ อย่าโมโหโกธรา ควรแก้ปัญหาด้วยวิธีทำใจ ปล่อยเขาไป และก็ไม่ต้องไปตามตื้อโทร.หาเขาอีก อยู่อย่างสงบนิ่ง!!!

อาตมาเชื่อว่า บางคราที่โยมแกล้งสรวลเสเฮฮา บางทีก็แค่เป็นเพียง สิ่งปิดบังความเงียบเหงาภายใน มากกว่าที่จะทำให้จิตใจภายในเบิกบาน สงบเย็นลงได้ แสงสีที่สัมผัสเห็น บางครั้งก็ไม่อาจช่วยให้ภายในจิตใจสว่างไสวขึ้น คงได้แค่เพียงความสุขระยะสั้นๆ หลังจากนั้นก็จะกลับมาทุกข์กังวลกับเรื่องเดิมๆ

ฉะนั้นต้องยอมตัดทิ้ง ยอมสูญเสีย เพื่อจะก่อเกิดสิ่งที่ดี ต้องเรียนรู้เพื่อความอยู่รอดและดำเนินชีวิต ไปตามครรลองที่ดี อย่าสิ้นหวังท้อแท้ เบื้องหน้ามีเส้นทางอีกมากมายที่เราจะก้าวเดินได้ เพียงเราค้นหา “เส้นทางในจิตใจ” ที่เป็น “ตัวตนแห่งเรา” ให้พบ คงไม่ยากที่จะเลือกก้าวเดินไป กำลังใจภายในใจเรายิ่งใหญ่ และเป็นจริงยิ่งกว่าจากคนอื่นมากนัก และในใจที่นิ่งสงบ เราจะพบความสุขที่แท้

-อาตมาเข้าใจว่า ในยามนี้ โยมทุกข์ แต่หลักความจริง อันเป็นหัวใจของพระศาสนา ที่พระพุทธเจ้าประทานไว้คือ อริยสัจธรรมทั้ง 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

การพิจารณาทุกข์ เป็นอริยสัจอันหนึ่ง เมื่อเห็นเรื่องของทุกข์แล้ว เป็นเหตุให้คิดต่อไปว่า ทุกข์นี้เกิดขึ้นเพราะอะไร เช่น เราเสียใจเพราะรักไม่สมปรารถนา นี่คือต้นเหตุ ฉะนั้นควรไตร่ตรอง ตั้งสติ เมื่อรู้ว่าทุกข์อยู่ตรงไหน กาย ใจ เมื่อรู้ชัด ก็ดับตรงนั้น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา-

เริ่มต้นตั้งสัจจะกับตัวเองว่า ชีวิตที่เหลือ...เราจะมีศีลเป็นอาภรณ์ มีสมาธิเป็นกำลังและเพิ่มพูนปัญญา เพื่อจะมีชีวิตที่ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน

อาตมาอยากให้ญาติโยมทุกคนที่อ่านคอลัมน์นี้ ตระหนักว่าโลกนี้ไม่มีฉัน ไม่มีของฉัน ไม่มีกายฉัน ไม่มีใจฉัน ไม่มีตัวตนของฉัน ที่จะรองรับอารมณ์ ที่แค่มาแล้วก็ไป

โยมน้องเกย์ควีน จากสุราษฏร์ธานี จำไว้ให้ดีนะ...หนูจะต้องทำให้ในหัวใจ ไม่จมอยู่กับอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด เพื่อให้ชีวิตใหม่ ผ่องใสอย่างที่ปรารถนาบนหน้าที่ที่พึงกระทำ ไม่ละโมบในรัก ไม่แสวงหาผลประโยชน์ในรัก ให้เกินความจำเป็น ไม่ลงทุนในรัก เพื่อหาผลกำไรให้มากจนเกินควร ไม่งมงายในรัก

พึงเชื่ออยู่เสมอว่า ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยแห่งการเกิด รู้จักใช้ชีวิตอย่างเมตตา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่เอาเปรียบ และแบ่งปันช่วยเหลือ ไม่ควรเลือกปฏิบัติ พัฒนาคุณธรรมให้เสมอกัน อ่อนน้อมถ่อมตน ระลึกถึงกันด้วยความรัก ไม่เกลียดชัง ไม่วิวาท ฟังกันด้วยปัญญา เปิดใจกว้าง วางอคติ เชื่อมั่นศรัทธาในพฤติกรรมความดี ถ้าทำได้เยี่ยงนี้ จะพลิกชีวิตได้ในทันที!!!

ขอเตือนให้ญาติโยมทุกท่าน พึงสำเหนียกไว้เลยว่า “จงอย่าคิดว่าเราเป็นเจ้าของเม็ดทราย และอย่าคิดว่าเรายิ่งใหญ่กว่าทะเล” พลังธรรมชาติในใจเรา มีอานุภาพเกินกว่าที่เราคาดคิดจริงๆ

ปัจจุบันหลายคนมีพิษในใจ โมโหร้าย อยากให้คนรอบข้าง ทำอย่างที่ใจเราต้องการทุกเรื่อง ในแต่ละวันชีวิตจึงเวียนวนอยู่กับอารมณ์หลากหลาย “ส่วนใหญ่จะเป็นไปในด้านลบ มีทั้งโกรธ หงุดหงิด รำคาญ น้อยใจ สารพัด”

อารมณ์ร้ายของหลายๆคน ส่งผลให้ชีวิตคู่อับปาง ใจร้อน เมื่ออารมณ์ร้อนกับร้อนมาเจอกัน บ้านก็จะลุกเป็นไฟ มีเรื่องให้ทะเลาะกันทุกวัน

ยิ่งนับวัน ความทุกข์ถาโถม เข้ามาในชีวิตมากขึ้น ฉะนั้นจึงควรพยายามหาวิธีคล้ายเครียดในแบบต่างๆ เช่น เปิดเพลงสบายๆฟัง หรือไม่ก็ไปเที่ยวผ่อนคลาย ทำให้ความขุ่นมัวจางหาย

โลกที่เคยหดหู่เศร้าหมอง ก็เปลี่ยนไป ใจเย็นลง หน้าตาผิวพรรณผ่องใส เปล่งปลั่ง

ที่สำคัญคู่รักที่เคยเป็นคู่กัด ก็จะกลายมาเป็นคู่รักที่น่าอิจฉา หัวใจสำคัญคือ ต้องดูแลสุขภาพกายใจ ดำเนินชีวิตอย่างสมดุล แก้ปัญหาของอารมณ์ที่ติดค้างอยู่ในใจ เรียกว่าอารมณ์ด้านลบที่สะสม จนกลายเป็นความเครียดแบบไม่รู้ตัว.....

“แต่จิตสำนึกของเรารู้”

“ดังนั้นตะกอนของความเครียดจึงสะสมอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา”

ดังนั้นใครก็ตาม ที่ต้องการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ หรือเยียวยาตัวเองจากโรคภัยไข้เจ็บ ก็ต้องมาตั้งตนกันที่จิตของตัวเองก่อน

“ด้วยการล้างพิษทางอารมณ์”

ออกกำลังกายทางจิต ชะล้างพิษที่อยู่ในจิตและอารมณ์ ย่อมช่วยให้จิตใจสงบสุข ร่างกายร่าเริงสบาย สุขภาพแข็งแรง ปลดปล่อย โล่งเบา ผ่อนคลาย สุดท้ายก็จะพบกับความสุขอย่างแท้จริง...ขอเจริญพร


พิธีขอขมากรรม ส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม