ร่วมบูชาวัตถุมงคล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

จุดไฟในใจคน ผ่าทางตุ๊ด!! จุดเปลี่ยนสามี
บทบาทใหม่ นัยหน้าที่ภรรยา
คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

เจริญพร ญาติโยมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน เมื่อเร็วๆนี้ รายการคิดไม่ออกบอกหลวงพี่น้ำฝน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5...

มีโยมผู้หญิงท่านหนึ่ง ถามและเล่าเข้ามาว่า สามีของหนูอยู่กินด้วยกันมานานหลายปี มีลูก 2 คน เรียนจบปริญญาตรีเป็นที่เรียบร้อย

แต่แล้วจู่ๆสามีที่เคยเป็นแมนเต็มตัว กลับกลายเป็นตุ๊ด แต่งหญิงสวยงาม แล้วก็มีสามีเป็นผู้ชาย แถมยังเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน ไปอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา

และดันมาซื้อบ้าน สร้างรังรักอยู่ตรงข้ามกันอีกด้วย.....

เมื่ออาตมาได้รับฟังถึงปัญหาของโยมท่านนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับว่า “สงสารจริง” แต่ก็ต้องอธิบายให้โยมเข้าใจ ถึงสาเหตุที่แท้จริงของจุดเปลี่ยนในครั้งนี้

เนื่องเพราะเรื่องของสามีโยม ที่กลายเป็นตุ๊ดนั้น เรื่องเฉกเช่นนี้ มีเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ในหลายครอบครัว และก็มีหลายคนตั้งคำถามมาที่อาตมา “ทำไมผู้ชายสมัยนี้ถึงกลายเป็นกะเทยไปซะหมด” หญิงสาวหลายคนถอนหายใจอย่างเสียดายสุดๆ เมื่อเห็นกะเทยหล่อเดินผ่านไปมา

อะไรเป็นสาเหตุทำให้คนเป็นกะเทย?

เป็นคำถามที่คนทั่วไปอยากรู้ โดยเฉพาะโยมภรรยาที่แต่งงานมีลูกโตแล้วท่านนี้ เธอและสามี อายุ 50 ปี ต้องแยกบ้าน ครอบครัวแตกร้าว!!!

ก่อนอื่นอาตมาขอชี้แจงก่อนว่า ในกลุ่มของคนที่เป็นกะเทย จะเริ่มรู้สึกว่าตนเองต่างจากเพื่อนเพศเดียวกันตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ หรือเมื่อเริ่มจำความได้

โดยจะจดจำว่าพ่อแม่ตักเตือนอยู่เสมอว่า อย่าทำตัวเป็นผู้หญิง ซึ่งอาจจะสร้างความรู้สึกกดดันภายในจิตใจ ในด้านพฤติกรรม จะมีความรู้สึกอ่อนไหว ร้องไห้ง่าย กิริยามารยาทคล้ายเด็กหญิง ชอบแต่งตัว ชอบเล่นกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ไม่ชอบเล่นรุนแรง

เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น จะมีความรู้สึกทางเพศกับเพศเดียวกัน แตกต่างจากเพื่อนผู้ชายทั่วไป เนื่องจากเด็กรับรู้ว่าสังคมทั่วไป มีความรู้สึกรังเกียจกะเทย เด็กจึงสับสนไม่แน่ใจในการวางตัวในสังคม เกิดความวิตกกังวล ความเครียด พยายามปิดบังความรู้สึกของตนเอง

“บางคนพยายามป้องกันตนเอง โดยพยายามทำตัวเป็นชายชาตรี เช่น พยายามมีคนรักเป็นผู้หญิงหลายๆคน เพาะกายให้ดูเป็น "แมน" แสดงตนก้าวร้าว ดื่มเหล้า สูบบุหรี่”

แต่เด็กบางคนก็พยายามหาสิ่งทดแทนความด้อย เช่น พยายามขยันตั้งใจเรียน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพื่อน ซึ่งเป็นการทดแทนที่ดี ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองและครูไม่เข้าใจ เด็กจะยิ่งมีความทุกข์ทรมานใจมากขึ้น

บางคนมาปรึกษาแพทย์ เพื่อขอฉีดฮอร์โมนเพศชาย โดย หวังว่าฮอร์โมนเพศชายจะช่วยเปลี่ยนความรู้สึก และความต้อง การในใจ ซึ่งความเป็นจริงฮอร์โมนเหล่านี้ไม่ได้มีผลดังที่หวัง!!

ระยะสับสนกังวลนี้อาจจะกินเวลานานมากหรือน้อยแล้ว แต่ตัวเด็กแต่ละคน เมื่อผ่านระยะนี้ไป เด็กจะเริ่มยอมรับความรู้สึก และความต้องการทางเพศของตนเองมากขึ้น ความเครียด ความวิตกกังวลจะลดลง ในขั้นต่อไปอาจพัฒนาถึงขั้นเปิดเผยตนเองต่อสังคม และสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดี

“สำหรับชายใจหญิงหรือกะเทยหลายคนที่มีความต้องการเปลี่ยนแปลงตนเองให้เหมือนผู้หญิงให้มากที่สุดเลือกที่จะขอเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ ซึ่งในประเทศไทยมีศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้”

ที่สำคัญพวกที่อยากเป็นผู้หญิงจริงๆน่ะคือ "กะเทย" ที่คิดว่าชีวิตนี้ต้องมี...?...เป็นของตัวเองให้ได้


เมื่อโยมได้รับรู้ถึงที่มาของการผันไปเป็นกะเทยแล้ว ก็ต้องทำความเข้าใจ “ทำใจ” และให้คิดเสียว่า เราทำเวรทำกรรมกับเขามาแค่นี้ อยู่กันมานานหลายสิบปี มันหมดเวลาแล้ว สำหรับการมีชีวิตคู่ กับผู้ชายคนนี้

ฉะนั้นควรปล่อยวาง ปล่อยเขาไปที่ชอบที่ชอบ ไม่ต้องฟูมฟาย หรือโหยหาให้เขากลับมาเหมือนเดิม เพราะมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

หัวใจสำคัญควรตั้งสตินับหนึ่งใหม่ “เริ่มต้นชีวิต” สร้างความสุขอยู่กับลูกของเรา ดูแลเขาให้เป็นคนดีมีคุณภาพ อยู่กันตามประสาแม่ลูก แล้วก็อย่าไปโกธรสามีที่กลายเป็นกะเทย อย่าไปตามจิก หรือจองเวรจองกรรม อย่าไปอาฆาตมาดร้าย อย่าไปนอนปวดใจ แบบคนตายทั้งเป็น อย่าประชดประชัน ทำร้ายตัวเองให้เจ็บช้ำน้ำใจเพราะรักมากมายลืมเขาไม่ได้มาเป็นชนวนสาเหตุ???

สำหรับผลร้ายของการจองเวรจองกรรมนั้น “ย่อมทำให้เป็นทุกข์” ฉะนั้นเราควรจะเลือกอยู่อย่างเป็นทุกข์ หรืออยู่อย่างสุข ควรตัดใจให้เด็ดขาด ลืมเรื่องเก่าๆ หันมาใช้สมาธิ ใช้สติปัญญา ศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างจริงจังให้ถ่องแท้

ในโลกแห่งความเป็นจริง บนโลกใบนี้ การดำเนินชีวิตนั้นแสนยาก และไม่มีใครรับรองได้ว่าชีวิตนี้จะเป็นไปตามเส้นที่ขีดไว้ และจะไม่พบเจอเรื่องราวเกินคาดฝัน ต้องเข้าใจถึงสัจธรรม เพราะมันคือกฎแห่งกรรม หรืออาจเป็นผลของกรรมเก่า

อาตมาอยากเตือนไปยังหลายๆครอบครัว ให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้าง เพราะอาตมาเชื่อว่า สักวันหนึ่ง คุณผู้หญิงไม่คนใดก็คนหนึ่ง อาจจะเจอเรื่องเฉกเช่นนี้โดยเฉพาะครอบครัวที่กำลังดำรงอยู่อย่างแฮบปี้ มี พ่อ แม่ ลูก เป็นครอบครัวที่ทุกคนอิจฉา มีสามีเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ เฟอร์เฟคมากๆ เหล้าไม่ดื่ม ยาไม่สูบ หน้าที่การงานดี รักครอบครัว แถมหน้าตาดีอีกด้วย และในการดำรงชีวิตของครอบครัว ตั้งแต่เช้าคือสามี จะไปส่งลูกที่โรงเรียน และไปส่งเมียไปที่ทำงาน และตัวเองก็ขับรถไปทำงาน......ซึ่งการใช้ชีวิตเป็นไปแบบนี้ทุกวัน..... จนกระทั่ง....วันหนึ่งสามีตัวเองไปมีอะไรกัน กับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ขอเตือนให้ตั้งสติ กับเหตุการณ์ที่กำลังจะอุบัติขึ้นใหม่นี้

โดยภรรยาควรตั้งสติ อย่าถึงกับต้องขาดใจตายลงตรงนั้น ควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง ไม่ควรร้องไห้ฟูมฟาย อย่าเบลอ......หรือตื่นตระหนกตกใจ อย่าคาดหวังในความเป็นผัวไว้สูงนัก ให้ระวังสามีที่กำลังแอ๊บแมน ปกปิดมาตลอด ปกปิดทุกคนว่าตัวเองแมนทั้งแท่ง!!!

และที่สำคัญที่อาตมานำเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ มาแชร์เป็นข้อมูลให้ใครหลายๆคน ที่มาอ่านเจอ จะได้เรียนรู้เป็นประสบการณ์ ศึกษาพฤติกรรมในวิถีชีวิตของผู้ชายหลายๆคนที่เป็น “กะเทย”...ควรปล่อยเขาไป อย่าถือหรือแบกเขาไว้....ปล่อยวางซะ

แล้วก็กลับมาสร้างความรู้สึกดีๆให้กับครอบครัว คือ ลูกๆของเรา เพราะนั่นย่อมเป็นหนทาง และวิธีการสร้างสรรค์จรรโลงกายและใจ ได้เป็นอย่างดีที่สุดในชีวิต...ขอเจริญพร

พิธีขอขมากรรม ส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม