ร่วมบูชาวัตถุมงคล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

‘ หนุ่มใต้ คนตรัง’ สิ้นหวัง!! พลังหมด!!กำลังใจหาย 

 ‘พ่อแม่ตาย’ หนี้สินมากมาย

หลวงพี่เติมพลัง ลุกสู้ ‘ท้อได้ แต่อย่าถอย’

คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม


เจริญพร ญาติโยมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน พลันที่ รายการคิดไม่ออก บอกหลวงพี่น้ำฝน จบลงทีไร ญาติโยมก็กระหน่ำโทร.เข้ามาหาอาตมาไม่ขาดสายเช่นกัน

ซึ่งอาตมาก็ให้แสงสว่างไปตามอัตภาพสติปัญญา ด้วยความบริสุทธิ์จริงใจ อยากให้โยมทุกคน อยู่รอดปลอดภัย อย่างเข้มแข็งมีพลัง และสิ่งที่สำคัญ อาตมาย้ำอยู่เสมอก็คือ โยมท้อแท้ได้ แต่ห้ามท้อถอย และขอให้กำลังใจทุกคน จงลุกขึ้นสู้สู้

และสำหรับฉบับนี้ ที่อาตมาซึ้งใจ ก็ตรงที่ มีโยมท่านหนึ่ง อุตสาห์เดินทางมาจากแดนไกล หมดค่ารถค่ารามากมาย โยมมาจากภาคใต้ จังหวัดตรัง  บอกมารอที่วัดตั้งแต่เช้ามืด

นี่แสดงว่าโยมทุกข์ร้อนใจจริงๆ และมีความหวัง มีความศรัทธาในตัวอาตมา ที่จะสามารถชี้ทางออก บอกทางสวรรค์ให้โยมได้

โยมบอก ชมรายการโทรทัศน์ ที่อาตมาจัด เป็นประจำ และที่มาวันนี้ มีเรื่องทุกข์มาปรึกษา โยมเล่าว่า  ห้วงนี้รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยว เพราะที่ผ่านมา ทำธุรกิจบ่อเลี้ยงกุ้ง เคยรุ่งอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ร่วง

ธุรกิจขาดทุน หนี้สินอีรุงตุงนัง ชักหน้าไม่ถึงหลัง จวบจนวันนี้รู้สึกห่อเหี่ยวใจ อยากจะฆ่าตัวตายให้มันรู้แล้วรู้รอด

สุดท้ายนึกถึงหลวงพี่น้ำฝน จึงตัดสินใจเดินทาง ออกจากบ้านจังหวัดตรัง แวะมาหาเพื่อนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้วก็ชักชวนกันมาที่ วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม

ณ เวลานี้ สิ่งที่อาตมาเห็น สภาพภายนอกของโยม ยอมรับว่าหมดราศี แววตาอ่อนล้า ฉายแววว่ากำลังอยู่ในห้วงจิตใจว้าวุ่น สับสน กังวน และที่สำคัญโยมกำลังทำร้ายตนเอง ตำหนิตนเอง และดูถูกตัวเองอย่างรุนแรง

ความคิดนี้มันสะสมหมักหมม หมกมุ่น ผสมพันพัวอยู่ในใจ จนกลายเป็นความทุกข์ จิตและกายห่อเหี่ยว หมดกำลังใจ ท้อแท้ พอหนักมากขึ้น ก็ถึงขั้น อยากจะหนีปัญหาทั้งหมด ด้วยการฆ่าตัวตาย


อาตมาขอถามโยมว่า การฆ่าตัวตายช่วยอะไรได้!!! อยากให้โยมมองที่เหตุผล ความตาย ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา แต่โยมกำลังจะเพิ่มปัญหาให้ตัวเอง เป็นการผูกเวร ไม่จบไม่สิ้น ที่สำคัญ บาปมากๆ

เรื่องปัญหาหนี้สิน ไม่ใช่มีโยมคนเดียวที่เป็นหนี้ คนไทย 30 กว่าล้านคน ล้วนเป็นหนี้กันทั้งนั้น อาตมาก็เป็นหนี้ หาเงินมาสร้างวัด โรงเรียน โรงพยาบาล ช่วยเหลือสังคม เลี้ยงคนงานภายในวัด เป็นหนี้สินมากกว่าโยมเสียอีก แต่ทำไมอาตมาถึงต้องสู้ และอยู่ได้มาจนทุกวันนี้

สิ่งสำคัญที่โยมต้องปลง และอาตมาก็ต้องปลงเหมือนกัน นั่นคือ ต้องทำใจ โยมต้องมองไปข้างหลัง แล้วก็หันไปมองข้างหลัง คนที่หนักยิ่งกว่าโยม ยังมีอีกมากมายหลายสิบล้านคน แต่ทำไมเขายังสู้ ทำไมเขาถึงไม่คิดฆ่าตัวตาย

ปัญหาทุกเรื่องมีทางออก มีทางแก้ไข โยมเป็นหนี้ แต่โยมไม่ได้หนีไปไหน บอกเจ้าหนี้เขาไปตามตรง อธิบายให้เขาฟัง เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดตามความเป็นจริง แล้วบอกเขาไปว่า เราจะหาทางทำงาน เริ่มต้นใหม่ แล้วจะใช้หนี้ให้เร็วที่สุด

และที่โยมเน้นว่าอยากตาย โยมไม่ต้องไปฆ่าตัวตายให้บาปกรรม เพราะถึงอย่างไร โยมก็ต้องตายอยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็ว อาตมาก็ต้องตายเช่นกัน ทุกคนในโลกใบนี้ต้องตาย ไม่มีใครหนีความตายไปได้ ฉะนั้นจงลืมเรื่องฆ่าตัวตายซะ

และที่โยมตัดพ้อ ว่า พ่อก็ตาย แม่ก็ตาย พี่ก็ตาย ถามเป็นเพราะดวงชงหรือไม่ หรือเป็นเพราะ ดวงไม่ดี นี่ก็เป็นการเข้าใจผิด พ่อโยมอายุ 80 กว่าปี แม่โยมอายุ 70 กว่าปี เขาอายุมากแล้ว มันเป็นไปตามสังขาร ตามวาระ และพี่โยมก็เช่นเดียวกัน เขาทำเวรทำกรรมมาแค่นี้ เขาต้องตายตามธรรมชาติ ไม่มีใครฝืนได้

คนเราทุกคน ต้องมี การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย อาตมาย้ำเรื่องนี้ทุกครั้งที่สอน แล้วโยมจะเครียดไปเพื่ออะไร ที่สำคัญโยมต้องละให้ได้ในชั่วโมงนี้คือ กิเลส ความโลภ ความโกธร ความหลง

กิเลสคือตัวปัญหา แต่ทุกปัญหา ก็มีทางออก ทุกปัญหา ต้องใช้ “ ศีล สมาธิ สติปัญญา” เพื่อแก้ไข แต่เรื่องบางเรื่อง เกินกว่า สติปัญญา จะแก้ไข
โยมก็ต้องอยู่ กับปัญหา อย่างเข้าใจ อย่าเดินหลงทางไปกับมัน

ควรให้กำลังใจตนเอง ด้วยการคิดบวก ตามวิธีของอาตมา คือ โยมอย่าปล่อยให้เหตุการณ์แย่ๆ มาทำลายชีวิตโยม และจงจำไว้ อดีตไม่เท่ากับอนาคต และอย่าคาดหวังกับอนาคต ควรคิดถึงภาพรวม อย่าตัดสินอะไรแค่คิดว่า ดีกับไม่ดี จงดูแลสุขภาพ และควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน และที่สำคัญโยมต้องนึกถึงแต่สิ่งดีดี นี่คือหลักคิดที่อาตมาใช้อยู่เป็นประจำ

ญาติโยมทุกท่าน ชีวิตในบางครั้ง ความไม่ยุติธรรม คล้ายเป็นเรื่องถูกต้อง ความเจ็บปวด คล้ายเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ความเสียเปรียบ อาจถูกยัดเยียดให้ ความพ่ายแพ้ อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไม่คาดฝัน คนที่เข้มแข็งเท่านั้น จึงจะสามารถ ทนรับเอาไว้ได้ เพื่อที่จะกอบกู้ ทุกอย่างกลับคืนมา

และควรละ ราคะ โทสะ โมหะ ตัณหา หันเข้าหาความ สงบ ประณีต สลัดทิ้งความท้อเสีย ที่ผ่านมาความสุข มักทำให้โยมลืมตัว แต่ในความทุกข์ มักทำให้โยมมีสติ

สุดท้าย อาตมาขอฝาก มงคลชีวิต ที่ญาติโยมทั้งหลาย ควรจดจำให้ขึ้นใจ ควรปฏิบัติให้ได้ พยายามสอนตัวเองปลุกกายใจให้มีพลัง เริ่มต้นเช้าวันใหม่ สิ่งที่ควรปฏิบัติให้เป็นนิจสม่ำเสมอ อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา

อย่าเสวนาคนชั่ว อย่ามั่วอบายมุข อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าพล่ามก่อนทำ อย่ารำก่อนเพลง อย่าข่มเหงผู้น้อย อย่าคอยแต่ประจบ อย่าคบแต่เศรษฐี อย่าดีแต่ตัว อย่าชั่วแต่คนอื่น อย่าผ่าฝืนกฎระเบียบ อย่าเอาเปรียบสังคม อย่าชื่นชมคนผิด อย่าคิดเอาแต่ได้

อย่าใส่ร้ายคนดี อย่ากล่าววจีมุสา อย่านินทาพระ-จ้าว อย่าขลาดเขลาเมื่อมีทุกข์ อย่าสุขจนลืมตัว อย่าเกรงกลัวงานหนัก อย่าพิทักษ์ พาลชน อย่าลืมตนเมื่อมั่งมี ถ้าทำได้เยี่ยงนี้ ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง อย่างแน่นอน....ขอเจริญพร



พิธีขอขมากรรม ส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม