ร่วมบูชาวัตถุมงคล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

‘เมียพี่มีชู้’
ชาวบ้านรู้หรือเปล่า!?!
คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

เจริญพรญาติโยมทุกท่าน อาตมาจั่วหัว “เมียพี่มีชู้” โยมอาจจะรู้สึกตะหงิดๆในใจว่า เอ๊ะ! ทำไม? ถึงนำเรื่องนี้มาเขียน มีนัยยะอะไรหรือเปล่า?

ก่อนเข้าเรื่อง พอเอ่ยถึงคำว่า “เมียพี่มีชู้ ชาวบ้านรู้หรือเปล่า” ทำให้นึกถึงเพลงลูกทุ่งชื่อดัง “ของอาชาย เมืองสิงห์” ขึ้นมาทันที!

เพลงนี้ ถ้าเป็นชีวิตจริง ผู้ชายส่วนใหญ่ ย่อมไม่ชอบ ไม่พอใจ เพราะเป็นเรื่องศักดิ์ศรี “ไม่มีสามีคนไหน ยอมให้ภรรยา ไปมีสัมพันธ์กับชายอื่นอย่างแน่นอน”

เรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์จริง เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ของอาตมา สะท้อนเหตุการณ์เมื่อ 8 ปีล่วงมาแล้ว แต่เนื้อหาสาระน่าสนใจยิ่ง

โยมเล่าให้ฟังว่า... ที่ผ่านมาสถานะครอบครัว ครานั้น อยู่ในขั้นดี มีเงินเหลือเฟือ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงสภาพจิตใจ ดำเนินในทิศทางดี มีความสุข

โยมประกอบอาชีพโรงงานผลิตสินค้า เจริญก้าวหน้า มีผลกำไรน่าพึงพอใจ

อีกทั้งภรรยาคู่ใจ เป็นขวัญกำลังสำคัญ ช่วยงาน ขยันขันแข็ง ส่งให้ครอบครัวอบอุ่น พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ และลูกสาวอีก 2 คน... “รักใคร่กลมเกลียว เป็นครอบครัวตัวอย่าง ที่พรรคพวกเพื่อนฝูงต่างอิจฉา”
โยมสามี ชื่นชอบการเดินทาง ทุกวันหยุดมักไปท่องเที่ยวตามป่าเขาลำเนาไพร มีเพื่อนพ้องมากมาย ล่องออกไปเป็นกลุ่มก้อน ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม นำสิ่งของมอบให้เด็กนักเรียนยากจน ถิ่นทุรกันดาร

ส่วนใหญ่การเดินทางเฉกเช่นนี้ ไม่มีภรรยาร่วมไปด้วย เพราะเธอไม่ชอบการเดินทาง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เหมือนฟ้าผ่ากลางใจ “ชีวิตเปลี่ยน” จากหน้ามือเป็นฝ่าเท้าในบัดดล?

ชีวิตคนเรานั้น การดำเนิน ประมาทไม่ได้เพียงเสี้ยววินาที เพราะแก่นที่แท้จริงของชีวิต ส่วนใหญ่ไม่ได้สุขเสมอ ทุกก้าวย่าง มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบทุกวัน ฉันใด อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ บนโลกใบนี้

แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็เกิดขึ้นจริงๆ อยู่มาวันหนึ่ง โยมผู้ชายฝ่ายสามี ได้เห็น ภาพอันแสนบาดตาบาดใจ (เพราะเขาเองก็เป็นเจ้าพ่อแห่งเทคโนโลยีเช่นกัน) ภาพที่เห็นคือ ภรรยาสุดที่รักอยู่กับชายอื่น และมีพฤติกรรมนอกใจ โดยไปมีอะไรกับลูกน้องของตน

พลันเห็นภาพปรากฏตรงหน้า เนื้อตัวเย็นชา หน้ามืด น้ำตาซึม ครองสติไม่อยู่ ทำอะไรไม่ถูก

ในใจคิด “ลูกผู้ชายฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้” พอเริ่มตั้งสติได้ โยมตัดสินใจเจรจาขอเลิกราอย่างเป็นทางการ

โยมคิดดัง “ห้วงแห่งลมหายใจ ณ เวลานั้น มันเป็นอะไรที่ชอกช้ำระกำใจ มันเจ็บลึกอยู่ข้างใน ที่บอกใครไม่ได้จริงๆ”

มนุษย์เรา มีอารมณ์และความรู้สึกอันหลากหลาย แต่ละอารมณ์ จะสนองตอบตามความเคยชินของสิ่งที่กระทบ โกรธ เมื่อมีสิ่งที่เราไม่พอใจมากระทบ แต่สิ่งเหล่านี้ก็มิได้อยู่กับเรา คงทนหรือถาวร มีเกิดขึ้นแล้วหายไปเกิดขึ้นแล้วดับไป เป็นเช่นนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า

โยมเล่าต่ออีกว่า ก่อนหน้า ที่จะพบว่าภรรยามีชู้ ยังมีเรื่องเงินๆทองๆ ที่ภรรยาไปสร้างปัญหาไว้ เพราะเธออยู่ฝ่ายประสานงานลูกค้า เธอทำงามหน้า หลอกเอาเช็คไปแลก กับเพื่อนของโยม แล้วก็เบี้ยวเขา เพราะเช็คเด้ง รวมๆกันแล้วเป็นเงินมากถึง 7 แสนบาท โยมต้องใช้หนี้ตามระเบียบ

นี่คือความอัปยศอดสู เมื่อมารู้ความจริงทีหลัง เข้าตำราสุภาษิตไทย “น้ำลด ตอผุด”

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ยอมต้องทำความเข้าใจว่า ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามกฎแห่งธรรมชาติ(ธรรมะ) มิได้เป็นไปตามความต้องการของใจ ถ้าเราโกรธเขา เกลียดเขา ด้วยคิดว่าได้ความสะใจ สาสมใจ ที่ได้โกรธ ได้เกลียด และคิดว่า ชนะ แต่หารู้ไม่ว่า ความรู้สึกและอารมณ์นั้นๆ กำลังข่มขี่ และทำร้ายตัวเราเอง ให้เราเป็นผู้แพ้ในที่สุด ต้องหยุดความคิดนี้ให้ได้ แล้วดำเนินการต่อด้วยการเคลียร์แก้ปัญหาอย่างมีสติ

สุดท้ายสามีก็ต้องแก้ทุกเรื่องให้จบ ทุกอย่างที่ทำและสร้างร่วมกันไว้ โยมยกให้ภรรยาและชู้ไปจนหมดสิ้น

โยมออกมากับลูกสาว 2 คน พร้อมของใช้บางอย่าง เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์และที่นอนของลูกเท่านั้น

จากนั้นก็ไปขอยืมเงินเพื่อนได้มา 5 หมื่นบาท นำไปเป็นทุนสำรอง ในการเช่าบ้าน และก็ใช้เงินเริ่มต้นนี้ เป็นทุนก้อนแรกลงทุน เปิดโรงงานผลิตน้ำยาแอร์
โยมบอกว่า การได้เพื่อนแท้เพียงคนเดียว มันคุ้มเกินคุ้มจริงๆ เพื่อนคนดังกล่าวนี้ เที่ยวไปแลกเช็ค เอาเงินมาช่วยหมุน ใช้เครดิตการันตี แลกอยู่เรื่อยๆนานถึง 2 เดือน หมุนเงินไปมากถึง 32 ล้านบาท สุดท้ายก็ตั้งตัวได้สำเร็จ ภายในระยะเวลาเพียง 8 ปี หลังจากที่เลิกราจากภรรยา

บัดนี้โยม มีบ้าน มีรถ ลูกสาวคนโต เรียนอยู่ชั้น ม.5 คนเล็กเรียนชั้น ป.3 ครอบครัวกลับมาอบอุ่น สมบูรณ์สุขอีกครั้ง

อุทาหรณ์ของเรื่องนี้ ชี้ชัดถึงความมานะ หมั่นดี และด้วยความที่โยมเป็นคนขยันเอาการเอางานไม่ย่อท้อ สู้ชีวิต

เริ่มต้นใหม่จากศูนย์ มาตัวเปล่าๆ สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ

สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนในเรื่องนี้ ก็เพราะโยมมีสติ ใช้ปัญญา ทำใจยอมรับผลแห่งวิบากกรรม ด้วยการตัดโมหะ ตัดโทสะ การปลงสามารถช่วยได้ในยามคับขัน

สำหรับกรณีตัวอย่างเรื่องนี้ อาตมาถือเป็นวิทยาทาน สามารถสอนใครหลายๆคนได้ โดยเฉพาะคนที่กำลังตกอยู่ในภาวะเฉกเช่นนี้ ถ้าบันดาลโทสะในวันนั้น ก็อาจจะถึงขั้น ฆ่าคนตายได้
ถ้าดับโทสะกับโมหะ ชีวิตก็เปลี่ยน แต่เป็นการเปลี่ยนในทิศทางดี เป็นการสร้างสรรค์จรรโลงใจ ให้สู้ต่อไป ไม่ท้อแท้โชคชะตา

นี่ล่ะ คือเส้นทางลูกผู้ชาย นักสู้ตัวจริง ที่ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคปัญหา ลุกขึ้นจากคนล้ม ยืนหยัดตั้งมั่น ทำมาหากิน ถวิลหาแต่สิ่งที่ดีงามเข้ามาในชีวิตคือ ทำดี มุ่งหน้าเดินเข้าประตูสวรรค์ ไม่ยอมข้องแวะเข้าไปสู่ประตูนรก

ส่วนฝ่ายภรรยา หลังจากเลิกรา สุดท้ายก็หมดตัว ผัวใหม่ก็ทิ้ง

ฉะนั้นโยมต้องสอนตนเองให้ ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่เพ่งโทษ ไม่มุ่งร้ายตอบ สุดท้ายอารมณ์นั้น ก็จะกลายเป็นความสุขสงบเย็น

นี่ชัดเจน ตามหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชี้ชัดระหว่างฝ่ายดี คือทำดีได้ดี ส่วนฝ่ายชั่ว ทำไม่ดีทำชั่ว ก็ต้องรับผลกรรม คือ มีอันเป็นไป ตกสู่อบายแห่ง ความหายนะในชีวิต ทันตาเห็น

หลังจากที่เธอไปเถิดเทิงกับชายชู้ จนหมดเนื้อหมดตัวแล้ว วันนี้ยังมีหน้ามาขอเงินอีก ก็ในเมื่อทั้งชีวิต เคยให้ไปหมดแล้ว

แนวทางเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า การทำดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ย่อมได้ดีเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว

ส่วนการทำความชั่วนั้น ย่อมได้รับผลแห่งความชั่ว ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยวิถีแห่งกรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง

ฉะนั้นแล้วญาติโยมทั้งหลาย เมื่อรู้เหตุของชีวิตเยี่ยงนี้แล้ว พึงหมั่นกระทำความดีต่อไปเถิด ถึงแม้ไม่มีใครเห็น ตัวเรานั่นล่ะที่เห็น และสามารถหยั่งรู้ธาตุแท้ แห่งความสุขได้อย่างถ่องจริง!....ขอเจริญพร

พิธีขอขมากรรม ส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม