ร่วมบูชาวัตถุมงคล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หลวงพี่ขา ‘ช่วยหนูที’ ผัวหนูโดนของค่ะ!!
หลวงพี่เตือนสติ ‘โธ่อีโง่ อีควาย ไปตายซะ’
โยมสะดุ้งตื่นจากภวังค์ - โลภ โกรธ หลง

คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
                    
            เจริญพรญาติโยมทุกท่าน เมื่อเร็วๆนี้ มีสีกาท่านหนึ่ง โทรเข้ามา มีปัญหาคาใจ อยากถามไถ่  ปรึกษาหารือ ระบายความทุกข์ สุ่มในใจมานาน ไปหามาหลายอาจารย์ ไม่สำเร็จเสียที บังเอิญมีเพื่อนแนะนำ ให้ลองโทร.ถามหลวงพี่น้ำฝน ท่านน่าจะมีคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยแก้ไขได้!!  
โยมบอกกลุ้มใจเรื่องสามี  ที่นับวันเปลี่ยนไป จากที่เคยรักชอบพอ สุดหัวใจ ใหม่ๆ อะไรก็สีชมพู  หอมแก้มชื่นใจเช้าเย็น  เห็นหน้าคาดตากันเมื่อไร เป็นต้องนัวเนียตลอดเวลา
พลันเมื่อวันเวลาฝันแปร สามีคนนี้ เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ ไปทำงานเช้าขึ้นกว่าเดิม แต่เวลากลับบ้าน เริ่มไม่ตรงต่อเวลา บางครากลับดึกดื่น บางคืนก็ไม่กลับเอาเสียเลย
ส่วนพิมพ์ทรงหน้าตาที่เคยขาวใส สะท้อนความหล่อ ทุกเหลี่ยมมุม มาวันนี้ รู้สึกเริ่มคล้ำดำ หม่นหมอง หมดเท่ห์ แถมบุคลิกการพูดจา ที่เคยออดอ้อนเอาใจ เดี๋ยวนี้ทำเสียงแข็ง ชอบทำหน้าเข้มเข้าใส่ตลอดเวลา  อารมณ์เสียหงุดหงิดง่าย   ออกอาการดุด่าแบบไม่มีเหตุผลเป็นประจำ เรียกว่าเมียทำอะไรก็ผิดไปหมด
กิจวัตรประจำ วันอาทิตย์   อารมณ์วันหยุด  ที่เคยพาเมียไปเที่ยว พักผ่อน ตามสถานที่ต่างๆ
ปัจจุบันฝันไปเถอะ  แค่เอ่ยปากจะชวน  ก็โดนด่าไม่มีชิ้นดี  แถมอ้างโน้นอ้างนี่  บอกช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี  จะไปเที่ยวหาหอกอะไร  ต้องประหยัดเข้าไว้ จะเที่ยวไปทำไม ให้เปลืองเงินเปล่าๆ
เงินเดือนเคยให้เมียตรงเวลา แต่บัดนี้ ล่าช้า บางคราเลยเถิดถึงกลางเดือน แถมเริ่มมีหนี้สินตามมา ไม่รู้ว่าเอาเงินไปใช้กับอะไร  การพนันก็ไม่เล่น เหล้ายาปลาปิ้งก็ไม่สนใจ โยมสงสัยว่าทำไม สามีถึงเป็นหนี้สิน เริ่มทวีคูณมากขึ้นขนาดนี้ หลวงพี่ขา  ช่วยหนูที  สงสัยผัวหนูโดนทำของใส่แน่นอน
ทั้งหมดทั้งมวล ที่โยมเล่าให้อาตมาฟัง มานี้ ก่อนอื่นอาตมาต้องขอให้สติโยม ด้วยคำแรงๆก่อนเลยโธ่  อีโง่ อีควาย ไปตายซะ บ้าหรือเปล่า ตื่นจากภวังค์ได้แล้ว
ยุคสมัยนี้ มันมีของที่ไหนกันเล่าโยมเอ้ย
 โยมสันนิษฐานจินตนากาลเอาเองว่า สามีน่าจะโดนของ แน่นอน และอยากให้หลวงพี่ช่วยทำพิธี เอาของออกให้หน่อย ผัวหนูจะได้กลับมาเป็นคนเดิมเสียที แค่คิดก็ผิดแล้วโยม
เรื่องเล่าของผัวโยมทั้งหมด อาตมาฟังจนครบถ้วนกระบวนความแล้ว ถ้าจะให้สมาธิให้สติกันจริงๆ ก็ต้องทำพิธี จับยามสามตาเสียหน่อย ไหนๆก็ชมมาแล้วว่าอาตมาเป็น จอมขมังเวทย์ ปรากฏว่าอาตมานิมิตเห็นภาพ สามีของโยมกำลังเล่นอยู่กับของ ที่เป็นของใหม่  แต่ไม่ใช่ของโยมอย่างแน่นอน เป็นการเล่นกับของใหม่อย่างสนุกสนาน
ซูมโฟกัสภาพชัดเจนที่สุด อาตมาเห็นจริง และขอฟันธง ผัวโยมกำลังไปติดของใหม่ที่สดใสโสภากว่าของโยม  งามกว่าแน่นอน
พูดง่ายๆเขากำลังไปเจอผู้หญิงใหม่ สวยและเด็กกว่าโยมมากมาย  แถมเอาใจเก่ง หน้าตาดี แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เชื่ออาตมา  วันหนึ่งเขาก็จะกลับมา  เป็นขวัญใจคนเดิมของโยม
โยมอย่าไปสนใจ เอาเวลาไปทำมาหากิน  ดูแลแม่ผู้ให้กำเนิดโยม จะประเสริฐกว่า
 ดีกว่าเสียเวลาไปหาพระผสมแพะ ไปหาหมอดูหมอเดา หรือพวกทำพิธีทรงเจ้าเข้าพิธี  เสียเงินเสียทอง เสียเวลา เสียอนาคต ไปให้เขาหลอกเอาเงินฟรีๆ
ทั้งที่ในความเป็นจริง เรื่อง ของ คุณไสย ที่โยมว่า มันไม่มีจริงในโลกใบนี้ อย่างแน่นอน อาตมาขอยืนยัน  เลิกฝันลมๆแล้งๆ ควรอยู่กับความจริง ดีที่สุด เรื่องโดนของเป็นเรื่องที่งมงาย เป็นกุศโลบายของพวกปัญญาอ่อน โยมก็แปลกอยู่ดีๆ ชอบให้เขาหลอก โอเคนะ เข้าใจตรงกันนะ จบนะ
ปิดท้ายมาเข้าในมุมมองทางพระพุทธศาสนา ตามที่หลวงพ่อพูล เคยสอนศิษยานุศิษย์ไว้เสมอว่า “รูป” อะไรก็ไม่จับใจเท่ารูปผู้หญิง “เสียง” อะไรจะมาจับใจเท่าเสียงผู้หญิงเป็นไม่มี “กลิ่น” อะไรจะเหมือนกลิ่นผู้หญิง ติดกลิ่นอื่นก็ไม่เท่าติดกลิ่นผู้หญิง “รส” อะไร สารพัดรสก็ไม่เทียบเท่ารสผู้หญิง หลงติดเข้าไปแล้วถอนได้ยาก ผัวของโยมกำลังติดสิ่งเหล่านี้อยู่ อย่าไปเชื่อหมอดู หมอเดา มันเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งสิ้น
ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อน ถ้าไปเครียดเรื่องผัว ยิ่งร้อนไปกันใหญ่ ความร้อนมันไม่เที่ยง ไม่นานก็หมดร้อน แล้วก็ถึงหน้าฝน มันเป็นเรื่องธรรมชาติ
อาตมาเคยถามหลวงพ่อพูล ในขณะที่ท่านนั่ง อยู่ในห้อง เหงื่อท่วมตัว อาตมาถามว่าหลวงพ่อไม่ร้อนหรือ ท่านบอกว่าธรรมดา แล้วท่านก็นั่งทำงานปกติ อันนี้แสดงว่าท่านรู้จักหมุนจิตใจต้อนรับสถานการณ์นั้น แล้วก็ไม่เป็นทุกข์
คนเราจะอยู่ที่ใดก็ตาม เราควรจะอยู่ให้เบาใจสบายใจ อย่าอยู่ให้มีความทุกข์ความหนักใจ
คราวหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าถูกพระเทวทัตทุ่มหินลงมา แต่ว่าหินนั้นไม่ถูกพระองค์ ไปชนต้นไม้ สะเก็ดนิดหนึ่งมากระทบถูกหน้าแข้ง เลือดไหลซิบๆออกมา หมอโกมารภัจจ์ทำยาไปปะแผลให้ ยาที่ปะนั้นเป็นยาร้อน คล้ายทิงเจอร์
แล้วหมอก็กลับบ้าน หมอนอนไม่หลับตลอดคืนมีความเป็นห่วง นึกในใจ ยาที่พอกนั้นเป็นยาร้อน พระผู้มีพระภาคคงจะไม่ได้บรรทม เพราะความร้อนของยาที่ผิวหนัง
 ตื่นแต่เช้ามืดมาเฝ้าดูพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วถามด้วยอาการร้อนรนใจว่า เมื่อคืนพระองค์บรรทมหลับเป็นปกติหรือเปล่า  พระผู้มีพระภาคตอบ  เราบรรทมหลับเป็นปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หมอก็บอกว่า  ข้าพระองค์นอนไม่หลับเมื่อคืนนี้ เพราะมีความกังวลที่ยาปะแผลของพระองค์ว่ามันร้อน  พระผู้มีพระภาคตอบ  ความร้อนทั้งหลายเราได้ดับมันหมดแล้วที่ใต้ต้นโพธิ์ที่ตรัสรู้ เวลานี้ความร้อนเหล่านั้นไม่มี ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องทุกข์ในเรื่องความร้อนต่อไป  อันนี้เป็นเครื่องแสดงถึงความสงบเย็นของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ไม่มีความร้อน มีแต่ความสงบเย็น จะอยู่ในที่ใดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในจิตใจท่าน
อันนี้เป็นเรื่องพิเศษ ที่จะเกิดมีเฉพาะบุคคล ที่มีจิตหลุดพ้นแล้ว จากกิเลสทั้งปวง หรือพ้นแล้วจากการยึดมั่นถือมั่นในเรื่องตัวตน
แต่ว่าจิตของพระอริยะเจ้า ท่านไม่มีเหมือนเรา จิตท่านแตกต่างจากเรา ท่านปฏิเสธหมดแล้ว ไม่มีอะไรเป็นของท่าน อะไรๆมันเกิดขึ้นท่านก็เฉยๆ
 สรุปคือ สิ่งที่ทำให้โยมเกิดความทุกข์ คือการยึดมั่นถือมั่น เรียกว่า อุปาทาน ตามภาษาธรรมะ พอมีอุปาทานขึ้นเมื่อใด ใจมันไปติดอยู่กับสิ่งนั้น ไปยึดอยู่กับสิ่งนั้น พอสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงไป ไม่เหมือนใจไม่สมใจ โยมก็มีความทุกข์ขึ้นมาทันที
อันนี้เป็นเครื่องชี้อยู่ในตัวแล้วว่า โยมเป็นทุกข์เพราะ มีความยึดมั่นถือมั่น ถ้าจะไม่ให้เกิดทุกข์ ต้องผ่อนคลาย ความยึดมั่นถือมั่นออกไปจากใจของโยมเสียบ้าง
                                                 ขอเจริญพร





พิธีขอขมากรรม ส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม