ร่วมบูชาวัตถุมงคล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

มีบ้านราคา 10 ล้าน แต่ไปนอนโรงแรม

อยู่ยาว 6 เดือน - เอ๊ะ! นี่มันอะไรกัน ?

คอลัมน์จุดไฟในใจคน ...........โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม


เจริญพรญาติโยมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สัปดาห์นี้อาตมานำเรื่อง ที่เกิดขึ้นสดๆร้อนร้อน เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา มีโยมมาที่วัดไผ่ล้อม มากันทั้งครอบครัว และเข้าร่วม พิธีลงนะหน้าทอง จันทร์มหาเสน่ห์ ตำรับหลวงพ่อพูล พิธีจัดขึ้นทุกวันจันทร์

โยมมาทั้งหมด 5 คน ลงนะหน้าทองเสร็จ บูชามงคลวัตถุท้าวเวสสุวรรณ เนื้อผงตะเคียน ของเก่าสร้างสมัยหลวงพ่อพูล จากนั้นก็นำมาให้ อาตมาเจิมแป้งนะเมตตามหามงคล

แล้วโยมก็ถามว่า... “มีความสงสัย ว่าที่บ้านน่าจะโดนของ น้องสาวเห็น ผู้หญิงแก่ ใส่เสื้อคอกระเช้า ถือมีด บอกกูจะฆ่าพี่สาวมึง” นี่คือคำเล่าเบื้องต้น ที่โยมบอกกล่าวอาตมา

โยมทิ้งท้ายบอกมีบ้านอยู่แถวสาธุประดิษฐ์ อาตมาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ เดินทางไปที่ย่านสาธร และต่อไปยังวัดสระเกศ เพื่อฟังสวดพระอภิธรรม เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ
อาตมาก็เลยบอกไปว่า “ถ้ายังไง โยมก็ลองโทร.เข้ามาหาอาตมาอีกที ในวันพรุ่งนี้ ถ้าอาตมาเสร็จกิจนิมนต์ตรงนั้น จะไปดูให้ว่าโดนของอะไร จะได้ช่วยกันแก้ไข แต่ขอไปดูที่บ้านก่อน ถึงจะตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

พอถึงวันอังคาร อาตมาไปกิจนิมนต์ที่ตึกสาธร ลูกศิษย์ชาวอังกฤษและชาวสิงคโปร์ เขามาสร้างตึกทำธุรกิจด้านบันเทิง

เสร็จงาน โยมก็มาหา รับอาตมาไปที่บ้าน โยมบอกซื้อบ้านนี้มาในราคา 10 ล้านสามีเป็นชาวจีน ทำธุรกิจขายหลอดไฟฟ้า เจริญก้าวหน้าร่ำรวย สามีเป็นพ่อม่ายลูกติด คบหาอยู่กินกันมาถึง 8 ปี ทาวน์โฮมหลังนี้ อยู่กันแบบครอบครัวเล็กๆเพียง 3-4คน

แรกๆก็ไม่มีอะไร พอนานวันชักผิดสังเกต น้องสาววัย 15 ปี เล่าขานยืนยันเห็นกับตา เป็นคนแก่ ผมยาวสีขาว หน้าตาหน้ากลัว ใส่เสื้อผ้าแบบคนโบราณ มือถือมีดดาบ ลั่นวาจา “กูจะฆ่าพี่สาวมึง ระวังตัวให้ดี กูเอามึงตายแน่”

ผ่านไปไม่กี่วัน คนงานในบ้าน ก็เห็นอีก ลักษณะภาพเหตุการณ์เหมือนกันทุกประการ ทุกคนในบ้านหวาดผวา เหตุยังไม่จบ ผีร้ายที่ว่านี้ ได้เข้าสิงเด็กในบ้าน ซึ่งเป็นเด็กตัวเล็กๆ พูดจาในทำนองเดียวกัน ส่งผลให้น้ำหนักความเชื่อทวีคูณ

สุดท้ายโยมตัดสินใจขนของออกจากบ้าน ไปเช่าโรงแรม อาศัยชั่วคราว แต่ก็อยู่ยาว มาถึง 6 เดือนแล้ว หมดเงินไปเป็นแสน

โยมเล่าต่ออีกว่า ภรรยาเก่าของสามี เป็นชาวอีสาน จังหวัดกาฬสินธุ์ สงสัยว่าเป็นต้นเหตุทำของใส่ ทำให้ที่บ้านมีวิญาณร้ายสิงสถิต

นี่คือมูลเหตุทั้งหมดของเรื่องเลวร้าย โยมตัดสินใจมาหาหลวงพี่ เพราะทราบข่าวว่า “หลวงพี่น้ำฝนเป็นพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์” ทายาทศิษย์เอกหลวงพ่อพูล และเคยทราบว่าหลวงพ่อพูลกับหลวงพี่น้ำฝน เคยเดินทางไปดูที่ตั้งศาลพระภูมิมาแล้วหลายบ้าน จึงเชื่อว่าน่าจะช่วยปราบผีได้

สิ่งแรกที่อาตมาต้องทำก็คือ บอกเล่าเก้าสิบให้โยมรับรู้ว่า โดยความเชื่อของคนไทย ตั้งแต่โบราณ เมื่อไปอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ต้องบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางให้ท่านได้รับรู้ เป็นการขออนุญาต เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ คนไทยคนพุทธส่วนใหญ่ นิยมทำบุญบ้าน เป็นขนบประเพณีไทย ที่ยึดถือปฏิบัติมาช้านาน ทำแล้วดี ทำแล้วสบายใจ ก็ต้องทำ เพราะสิ่งพวกนี้ เรามองไม่เห็น อาตมาไม่ได้สอนให้งมงาย แต่ไม่อยากให้ลบหลู่ดูหมิ่นดูแคลน

จากนั้นอาตมาก็นั่งสมาธิอธิษฐานจิต แผ่เมตตา ตามตำรับตำราหลวงพ่อพูล ที่ท่านได้เคยสอนไว้

อาตมาเทศนาธรรมให้แง่คิด บอกความจริงให้โยมได้รับรู้ว่า บ้านที่โยมอาศัยอยู่นี้ ไม่ได้มีของ หรือมีคุณไสย แต่ประการใด โยมมีแต่ความกลัว ความกังวนใจ ส่งผลให้จิตตก มีอาการหลอน

โยมต้องมีความเชื่อมั่นในตนเอง เชื่อในวัตรปฏิบัติ แห่งคุณงามความดี หมั่นสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม เรียนรู้อยู่กับความจริง

ก่อนนอนควรสวดมนต์แผ่เมตตาให้แก่สิงสาลาสัตว์ ผีบ้าน เจ้าที่เจ้าทาง ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แผ่ส่วนบุญส่วนกุศล เพื่อเป็นการปล่อยวาง เรียนรู้แนวทางมัฌชิมาปฏิปทา การปฏิบัติเป็นกลางๆ ไม่เข้าใกล้ที่สุดสองฝั่ง เดินสายกลาง ตั้งมั่นอยู่ศีล สมาธิ ปัญญา แสงสว่างในชีวิตก็จะเกิดขึ้น

อุทาหรณ์ของเรื่องนี้ โฟกัสไปที่ความกลัว การกลัวผีเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิต บางคนกลัวมาก อาจถึงกับช็อคตายไปเลยก็ได้ ถ้าจะให้บอกกับตัวเองว่าเราไม่เชื่อเรื่องผี ก็ไม่ไหว เพราะทั้งที่ปากบอกว่าไม่เชื่อ แต่ใจยังหวาดกลัว เพราะความคิดนี้ฝังตัวอยู่ในสัญชาติญาณ ตราบใดที่โยมยังกลัวตาย ตราบนั้นก็ยังคงต้องกลัวผีอยู่นั่นเอง แล้วทีนี้โยมจะทำอย่างไรดี

พุทธศาสนาเข้าใจถึงจิตใจของปุถุชนดี ท่านจึงสอนวิธีคิดชนิดที่สามารถไปสลายความกลัวผีให้หมดลงไปได้ คือทำให้ความกลัวผีลดน้อยลงไป หรือ ถึงกับเลิกกลัวผีไปเลยก็ยังได้ โดยไม่ต้องไปเลิกเชื่อเรื่องผีแต่อย่างใด

ใช้หลักคิดปรารถนาดีต่อชีวิตทั้งปวง คือสร้างความรักความปรารถนาดีเผื่อแผ่ไปให้แก่ ทุก ๆ ชีวิต โดยจินตนาการให้ความรู้สึก "รัก" นี้แผ่ไพศาลไปทั่วฟ้า มหาสมุทร หรือ ถ้าเป็นสมัยใหม่นี้ ก็ต้องแผ่ไปให้ไกลทั่วแกแล็คซี่ ไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ ความคิด เมตตา เช่นนี้ถ้าคิดได้อย่างต่อเนื่องจนเป็นสมาธิ ก็จะมีพลังมหาศาล สามารถที่จะสลายความกลัวให้หมดไป

คนที่มีเมตตามาก ๆ สามารถที่จะสร้างอิทธิพลในทางบวกให้แก่ผี เช่นแบ่งปันความดีงาม ให้ผีสางนางไม้พลอยได้รับส่วนบุญกุศลอีกด้วย นี้แสดงถึงอำนาจของเมตตาที่มีอำนาจเหนือผี

คนที่มีเจริญเมตตาอยู่ในใจตลอดเวลา จะมีสมาธิดีมาก จนอำนาจภายนอกไม่ สามารถที่จะมาครอบงำหรือหลอกหลอนได้แต่อย่างไร ไปไหนมาไหนสบายใจ ไม่ต้องสะดุ้งกลัว

วิธีคิดสร้างเมตตา ในกรณีต้องไปอยู่ในสถานที่น่ากลัว "ขอให้ทุก ๆ ชีวิต ณ ที่แห่งนี้จงมีความสุข ขอให้สัตว์เล็กสัตว์น้อย ณ ที่แห่งนี้จงสุขกายสุขใจ ขอให้ความรักความปรารถนาดีของฉันจงมีแก่ทุกชีวิต ขอให้ความรักของฉันจงเผื่อแผ่ไปทั่วสกลจักรวาล อย่างไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ ขอให้ต้นไม้ใบหญ้า ทุกต้นทุกใบจงมีความสันติสุข ขอให้ความเป็นมิตรของฉันจงมีแก่ทุก ๆ ชีวิต ณ ที่แห่งนี้ ขอให้ท่านสุขกาย สุขใจ มีสุขภาพจิตใจที่แจ่มใส ขอเผื่อแผ่ความดีงามที่ฉันได้ทำไว้ มอบให้แก่ท่านทั้งหลาย ขอให้ชีวิตทีเศร้าหมองทั้งหลายจงสดใสร่าเริง ขอให้ทุกชีวิตจงมีความสุขใจโดยพลันเทอญ”

วิธีคิดให้เกิดเมตตา สามารถปรุงแต่งเป็นความคิดต่าง ๆ นานาได้ตามความปรารถนา เพียงแต่ว่า ให้อยู่ในประเด็นหลักของเมตตา แผ่ความรักปรารถนาดีไปยังสรรพสัตว์อย่างไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ

คนที่ชอบฝันร้าย หากรู้จักแผ่เมตตาก่อนนอน ก็จะฝันดี มีความสุขทั้งตอนหลับและตื่น หากปฏิบัติได้เป็นประจำก็ดีเยี่ยมเลย...เจริญพร

พิธีขอขมากรรม ส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม